6 แอปฟรีไว้ฝึกภาษาอังกฤษที่มีไว้ปังแน่นอน!

　　พูดได้แต่อ่อนแกรมม่า? เก่งแกรมม่าแต่พูดไม่ได้? จำคำศัพท์ไม่ได้? ใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเท่าที่ควร?

　　น้องๆ เป็นคนหนึ่งที่อยากเก่งภาษาอังกฤษให้มากขึ้นกว่านี้ใช่รึเปล่า??

　　　แต่โควิดแบบนี้ไม่สะดวกออกไปเรียนพิเศษข้างนอก ไม่รู้จะทบทวนยังไงให้เก่งดี?

　　ถ้าใช่ ก็ขอให้อ่านบทความนี้ต่อเลย ไม่ต้องกลุ้มใจไป!

　　วันนี้บล็อก Clearnote ของเราจะมาแนะนำแอปตัวช่วยเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งเริ่ดๆ กันไปเลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปไหน ไม่ต้องไปเจอใคร แถมยังฟรีอีก (เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจแบบนี้มาก) ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

---

1.Duolingo

　　แอปที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้ว (รึเปล่า555) Duolingo เป็นแอปสำหรับเรียนภาษาที่สามารถเลือกระดับภาษาของตนเองได้ก่อนเริ่มเรียนว่า น้องๆ มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับขั้นไหน ตั้งแต่ขั้นรู้จักคำ, สนทนาง่ายๆ ได้,หรืออยู่ในขั้นกลางถึงสูง เลือกเป้าหมายของการเรียนภาษาได้ (เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงกับเป้าหมาย ได้รู้ศัพท์จำเป็นที่เอาไปใช้ได้จริงๆ)

　　แบบฝึกหัดในแอปมีทั้งในเลือกคำที่ได้ยิน ฝึกพูดประโยคที่เห็น และแต่งประโยคจากคำที่ให้มาให้ตรงกับความหมาย แถมยังมีแบบทดสอบให้ทำด้วย เพื่อทดสอบหลังเรียนเสร็จ

ลิงก์ไปโหลดแอป: IOSคลิก Andriodคลิก

2.BBC Learning English

　　แอปจาก BBC ที่เหมาะกับการฝึกฟัง ฝึกอ่าน และแกรมม่ามากๆ แอปนี้จะให้เราฝึกภาษาอังกฤษโดยการดูวิดิโอ (มีซับภาษาอังกฤษ) เนื้อหาของวิดิโอค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่การเมือง สิ่งแวดล้อม นิทาน บทความเกี่ยวกับสุขภาพเป็นต้น เพราะฉะนั้นน้องๆ จะได้รู้คำศัพท์ที่หลากหลายแน่นอน แถมแต่ละวิดิโอยังมีบอกระดับความยากง่ายให้อีกด้วย สามารถเลือกได้ตามระดับภาษาของน้องๆ เลย

• 

• 

ลิงก์ไปโหลดแอป: IOSคลิก Andriodคลิก

3.TED

　　แอปดูวิดิโอ TED talk พร้อมซับภาษาอังกฤษ (มีภาษาอื่นๆ ด้วยนะ เช่น ภาษาญี่ปุ่น)

　　เผื่อใครยังไม่รู้ว่า TED คืออะไร TED คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่จัดทอร์คโชว์ เรียกว่า TED talk เชิญบุคคลที่มีประสบการณ์จากวงการต่างๆ มาพูดเผยแพร่ไอเดียดีๆ ให้คนทั่วโลกได้ฟัง

　　แอป TED ที่รวบรวมวิดิโอทอล์คโชว์ TED talk ไว้ จึงเหมาะที่จะใช้ฝึกฟังภาษาอังกฤษอย่างยิ่ง เพราะบุคคลที่มาพูดมาจากทั่วโลก ทำให้สำเนียงที่พูดต่างกัน ใช้ฝึกฟังสำเนียงต่างๆ ได้ คำศัพท์ที่ใช้พูดก็ยังหลากหลาย เพราะเรื่องที่แต่ละคนนำมาพูดก็ต่างกันไป (นอกจากฝึกภาษาแล้ว การฟัง TED talk ยังช่วยเปิดโลก เปิดมุมมองใหม่ๆ ช่วยให้เราได้เห็นวิธีคิดที่หลากหลายของคนจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วยนะ)

ลิงก์ไปโหลดแอป: IOSคลิก Andriodคลิก

4.Grammarly – Grammar Keyboard/ Grammarly for Chrome, Safari, Firefox, Microsoft Edge

　　ใครไม่เก่งแกรมม่า ใช้ผิดบ่อยๆ มาทางนี้เลย! แอปนี้มีประโยชน์มากๆ

　　แอป Grammarly เป็นแอปแก้แกรมม่าที่เราพิมพ์ผิด ใช้ผิดให้ถูกต้องเหมาะสมบริบทโดยเฉพาะ น้องๆ สามารถพิมพ์ประโยคลงไป หรือ Copy ทั้งบทความใส่ลงไปในแอป ให้แอปช่วยตรวจให้ได้เลย โดยถ้าหากมีตรงไหนผิด แอปก็จะขึ้นขีดสีแดงให้ พร้อมทั้งถามเราว่าตรงนี้ผิดนะ จะแก้ให้ถูกต้องไหม ถ้าแก้ให้ถูกต้องเปลี่ยนเป็นคำนี้ เพิ่มคำนี้ หรือตัดคำนี้ทิ้งนะ เป็นต้น

　　ตัวแอปนี้มีตั้งที่เป็นแอป Keyboard ในระบบ IOS และ andriod ช่วยแก้เวลาเราพิมพ์ผิดในมือถือหรือแท็บเล็ต แล้วก็ยังมีเป็นส่วนเสริม (Extension) ในเว็บเบราเซอร์ด้วย มีทั้งใน Chrome Firefox Safari และ Microsoft Edge

ลิงก์ไปโหลดแอป: Grammar Keyboard IOSคลิก Andriodคลิก

ลิงก์ไปโหลดแอป: Grammarly for Chromeคลิก, Safariคลิก, Firefoxคลิก, Microsoft Edgeคลิก

5.VoiceTube

　　ใครคิดว่า BBC กับ TED ยังไม่พอ เรายังมีให้อีกแอป แอป VoiceTube แอปนี้จะรวมวิดิโอจาก Youtube มาใส่ซับให้เราได้ฝึกฟังกัน เนื้อหาของวิดิโอจะค่อนข้างหลากหลายกว่าสองแอปด้านบน เพราะนำมาจากหลากหลายช่อง Youtube ไม่ได้เป็นวิดิโอที่มาจากที่ที่เดียว นอกจากนั้นแอปนี้ เรายังสามารถลองอัดเสียงที่เราพูดตามประโยคในวิดิโอเพื่อนำมาฟังได้อีกด้วย ทำให้เราพัฒนาสำเนียงภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นได้

• 

• 

ลิงก์ไปโหลดแอป: IOSคลิก Andriodคลิก

6.Speak

　　แอปฝึกพูดโดยเฉพาะ โดยแอปนี้จะให้เราฝึกพูดตอบโต้กับตัวแอป โดยใช้สถานการณ์เรามา แล้วก็ให้คำตอบเรา ในเรากดเปิดไมค์พูดตามคำตอบที่แอปให้มาโดยออกเสียงให้ถูกต้อง ถ้าเราพูดถูก ตัวหนังสือจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถ้าตัวหนังสือเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีเหลือง แสดงว่าการออกเสียงของเรามีปัญหา ให้เราลองพูดใหม่จนกว่าจะถูกต้อง แต่ถ้าไม่รู้ว่าต้องออกเสียงยังไง ให้เราคลิกที่คำๆ นั้น ตัวแอปจะออกเสียงที่ถูกต้องให้เราฟังเองเลยจ้า แอปนี้จึงเหมาะกับการใช้ฝึกการออกเสียง ฝึกพูดตอบโต้บทสนทนา

ลิงก์ไปโหลดแอป: IOSคลิก (แอปนี้มีแต่ใน IOS แอบน่าเสียดายไปหน่อย)

---

　　เป็นยังไงบ้าง มีแต่แอปดีๆ ทั้งนั้นเลย อย่าลืมไปโหลดมาฝึกกันนะ รับรองเก่งขึ้นแน่นอนทั้งฟัง พูด อ่านเขียน! วันนี้บล็อก Clearnote ขอลาไปก่อน แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าจ้า