เรียนต่อมัธยมที่อเมริกา เริ่มต้นอย่างไร?

  หากพูดถึงประเทศที่นักเรียนไทยนิยมไปศึกษาต่อ “ประเทศสหรัฐอเมริกา” น่าจะเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักเรียนหลายคนใฝ่ฝัน เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษแล้ว สหรัฐอเมริกายังมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกมากมาย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความเสรี และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นประเทศหนึ่งที่เหมาะจะไปเก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์ ในบทความนี้พี่ TUTOR VIP จะมาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้น้อง ๆ ที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาให้มากขึ้น

เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ

เรียนต่อมัธยมที่อเมริกา ดีอย่างไร?

    การเรียนต่อมัธยมศึกษาที่อเมริกาเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน เช่น 

  1. ระบบการศึกษาที่หลากหลาย: โรงเรียนมัธยมในอเมริกามีระบบการศึกษาที่หลากหลาย สามารถเลือกเรียนวิชาต่างๆ และเลือกเส้นทางการศึกษาตามความสนใจและแผนในอนาคตของตนเองได้
  2. มีมาตรฐานการศึกษาสูง: ระบบการศึกษาของอเมริกามีมาตรฐานสูงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
  3. การเรียนรู้ที่ใด้สัมผัสประสบการณ์จริง: การเรียนการสอนในอเมริกาไม่ได้เน้นให้เรียนรู้แบบ Passive เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง โดยนำเทคนิคและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ เช่น การเรียนรู้โดยการเล่นเกม, การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และจดจำได้ดีขึ้น
  4. ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักในการสื่อสารกับผู้คนทั่วโลก
  5. โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลก: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา 
  6. ได้พัฒนาตัวเอง: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะและความสามารถต่างๆ เช่น ทักษะการเรียนรู้เชิงวิชาการ, ทักษะการแก้ปัญหา, ทักษะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง

  เป็นต้น

ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอย่างไร?

  ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระบบการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมไปพร้อมกับความรู้เชิงวิชาการ โดยแบ่งออกเป็นระดับการศึกษา 4 ช่วง ดังนี้

  1. ระดับประถมศึกษา (Grade 1-6)
  2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Grade 7-8)
  3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Grade 9-12)
  4. ระดับอุดมศึกษา

  และแบ่งประเภทโรงเรียนออกเป็น 2 แบบ หลัก ๆ ดังนี้

  1. โรงเรียนรัฐบาล (State School) เป็นโรงเรียนที่อยู่ในการดูแลของรัฐบาลในแต่ละรัฐ นักเรียนต่างชาติสามารถไปศึกษาผ่านโครงการแลกเปลี่ยนได้เท่านั้น และศึกษาได้เพียง 1 ปีการศึกษา
  2. โรงเรียนเอกชน (Private School) นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าศึกษาได้ แต่ละโรงเรียนจะมีจุดเด่น และหลักสูตรแตกต่างกันไป

หลักสูตรการเรียนต่อ มีอะไรบ้าง?

  หลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเรียนทั้งหมด 4 ปี ตั้งแต่ Grade 9 -12 โดยละโรงเรียนจะมีแผนการเรียนต่างกันออกไป แบ่งเป็น 4 แบบหลัก ๆ ได้แก่ 

  1. Advance Placement (AP) เป็นแผนการเรียนรายวิชาของระดับมหาวิทยาลัยล่วงหน้าสำหรับนักเรียนที่เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ เมื่อศึกษาครบหลักสูตรจะสามารถนำคะแนนที่เรียนไปใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หรือเทียบโอนหน่วยกิตบางรายวิชาในมหาวิทยาลัยได้ด้วย โดยมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกามักจะให้ความสำคัญกับนักเรียนที่เรียนในแผน AP อย่างไรก็ตามแผนการเรียนนี้เป็นแผนการเรียนที่ไม่ได้บังคับ สามารถเลือกเรียนได้ตามความสมัครใจ
  2. Honor Class เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความตั้งใจจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนสามารถสะสมคะแนน GPA เพื่อใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้
  3. College Prep เป็นแผนการเรียนสำหรับเตรียมศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่เนื้อหาวิชามีความเข้มข้นน้อยกว่า Honor Class 
  4. ESL เป็นแผนการเรียนพิเศษสำหรับปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติ โดยจะเป็นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับเนื้อหาและคำศัพท์ในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมทักษะภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปเรียนในแผน Honor Class หรือ College Prep ต่อไปได้

  นอกจากการเรียนรู้วิชาต่างๆ ยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาตนเอง เช่น กิจกรรมชมรม, งานอาสา, งานบริการชุมชน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ได้พัฒนาบุคลิก, การเข้าสังคม และทักษะที่สำคัญต่อการเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่สังคมและการทำงานในอนาคต

การไปเรียนต่อที่อเมริกา มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

  การไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อเมริกามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากนักเรียนต่างชาติสามารถเลือกเรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน โดยค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะมี ค่าเทอม, ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของโรงเรียน, ค่าโฮสต์ หรือค่าหอพักกรณีอยู่โรงเรียนประจำ, ค่าอาหาร เป็นต้น โดยทั่วไปโรงเรียนเอกชนระดับ High School ในอเมริกาจะมีค่าเล่าเรียนเฉลี่ยประมาณ 15,645 USD/ปี หรือประมาณปีละ 540,000 บาท หากเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงหรืออยู่ในเมืองใหญ่จะมีค่าเทอมสูงกว่านี้

  อย่างไรก็ตามสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของได้โดยติดต่อโรงเรียนที่สนใจได้โดยตรง

ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในอเมริกา?

  มีโรงเรียนหลายแห่งที่เป็นที่นิยมในอเมริกา โรงเรียนหลายแห่งมีประวัติความเป็นมายาวนาน มีชื่อเสียง และมีมาตรฐานทางวิชาการสูง โดยผลการจัดอันดับโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดประจำปี 2023 โดย Niche.com มีดังนี้

  1. Phillips Academy Andover 
  2. Harvard-Westlake School 
  3. Choate Rosemary Hall 
  4. Phillips Exeter Academy 
  5. Groton School 
  6. Trinity School 
  7. St. Mark’s School of Texas 
  8. The College Preparatory School 
  9. Commonwealth School
  10. The Nueva School

     เป็นต้น

  สามารถดูรายละเอียด และรีวิวของแต่ละโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่ คลิก

ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?

   การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนมัธยมที่อเมริกานั้นมีหลายอย่างที่ควรพิจารณา ดังนี้

  • ค้นหาโรงเรียนที่ใช่: โดยพิจารณาจากหลักสูตร, ค่าใช้จ่าย, และทำเลที่ตั้งของโรงเรียน
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: ควรเตรียมตัวให้มีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ไม่เฉพาะภาษาในชีวิตประจำวัน แต่รวมไปถึง Academic English ด้วย เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาในการเรียน
  • ผลสอบวัดความสามารถ: บางโรงเรียนในอเมริกาอาจต้องการผลการสอบวัดความสามารถ เช่น SAT หรือ ACT เพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียน
  • เอกสารสำหรับการยื่นวีซ่า: การจะไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อเมริกาจะต้องมีวีซ่าที่ถูกต้อง โดยต้องไปยื่นวีซ่าที่สถานทูตอเมริกาในประเทศตนเอง

การไปเรียนต่ออเมริกาทำ visa ยากไหม?

  การทำวีซ่าไปเรียนต่อที่อเมริกาไม่ยากมาก แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเอกสารที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การยื่นวีซ่าเป็นไปได้สะดวกและรวดเร็ว โดยประเภทวีซ่าที่ต้องขอคือ วีซ่า F-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อที่อเมริกา โดยสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนขอยื่นวีซ่า F-1 มี ดังนี้

  1. สมัครเรียนและได้รับแบบฟอร์มตอบรับเข้าศึกษา (I-20) จากโรงเรียนแล้ว ต้องเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก Student and Exchange Visitor Program (SEVP) สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนได้ ที่นี่
  2. สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
  3. มีสปอนเซอร์สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนจนจบ

  ในส่วนของเอกสารที่จำเป็นในการขอยื่นวีซ่า F-1 มี ดังนี้

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ตั้งใจจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างน้อย 6 เดือน
  • ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
  • ภาพถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
  • แบบฟอร์มการตอบรับเข้าศึกษา (I-20) ที่ได้รับจากโรงเรียน
  • ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า 
  • เอกสารอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ, เอกสารการเงิน Bank Statement ของสปอร์นเซอร์ย้อนหลัง 6 เดือน, Transcript, เอกสารรับรองผลสอบวัดความรู้(กรณีที่ทางโรงเรียนต้องการ) เป็นต้น


  เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้วสามารถยื่นขอวีซ่าทางออนไลน์ได้ ที่นี่ หากเตรียมเอกสารครบถ้วน และยื่นสมัครพร้อมชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสัมภาษณ์ที่สถานทูต หากเตรียมพร้อมดีมีแผนการศึกษาต่อชัดเจน ก็สามารถผ่านวีซ่า F-1 ได้ไม่ยาก

สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?

 น้อง ๆ สามารถไปเรียนมัธยมที่อเมริกาเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนพาไป อย่างไรก็ตามในการอาศัยในอเมริกาหากมีอายุต่ำกว่า 19 ปี ตามกฎหมายแล้วจะต้องมีผู้ดูแล จึงจำเป็นที่จะต้องหา Host Family ที่สามารถดูแลน้อง ๆ ขณะที่ศึกษาที่อเมริกาด้วย หรือสามารถเลือกไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำซึ่งมีหอพักสำหรับนักเรียนก็ได้เช่นกัน

    ในส่วนของทุนการศึกษา การไปเรียนมัธยมที่อเมริกาหากมีสปอร์เซอร์ที่รับผิดชอบค่าการศึกษา และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่อเมริกาได้ก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องขอทุน 

    กรณีที่ไม่มีสปอนเซอร์ในปัจจุบันมีหลากหลายองค์กรที่สนับสนุนทุนทั้งเต็มจำนวนให้กับนักเรียนต่างชาติที่สนใจไปศึกษาในโรงเรียนมัธยมในอเมริกาแบบทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว เช่น

  • Kennedy-Lugar Youth Exchange and Study (YES) Program
  • Future Leaders Exchange (FLEX) Program
  • United World Colleges (UWC) Scholarship Program
  • American Field Service (AFS) Scholarship Program

เป็นต้น

      หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่และกำลังสนใจไปเรียนต่อมัธยมที่อเมริกากันนะ

    ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้เลย พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

สนใจเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศตัวต่อตัว เพื่อเตรียมตัวไปเรียนแลกเปลี่ยน ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP 

ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *