แฉหมดเปลือก! 7 เคล็ดลับเรียนให้เกรดปังสไตล์เด็กอักษรจุฬา
อยากเริ่มตั้งใจเรียน แต่ทำยังไงๆ ก็เรียนไม่รู้เรื่อง เกรดไม่ดีขึ้น ไม่มีแรงจูงใจอ่านหนังสือ ไม่รู้จะทำยังไงให้รอดจากสอบไปให้ได้!
ถ้าน้องๆ กำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ขอให้เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย!
เพราะวันนี้ Clear จะขอมาแชร์เทคนิคการเรียนแบบอักษ๊ร อักษรจากเด็กอักษร จุฬา คณะที่เขาว่าเรียนหนัก อ่านหนังสือเยอะกันจ้า!
แนะนำตัว
ก็ขอแนะนำตัวกันสักหน่อย พี่ชื่อกิ๊บ เพิ่งจบปี 4 จาก เอกภาษาญี่ปุ่น คณะอักษรศาสตร์ จุฬามาหมาดๆ ต้องขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้เรียนเก่งถึงมากถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ในคณะ แต่เราอาศัยว่าเราได้อยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ ขยันๆ ทำให้เราได้เห็นว่าคนเก่งๆ ได้เกรดดีๆ เขาเรียนกันยังไง เราก็เลยได้รู้วิธีเรียนดีๆ เยอะแยะจากทั้งเพื่อนๆ และอาจารย์ในคณะ ที่ทำให้เราเรียนได้ดีขึ้นแถมยังไม่เบื่อด้วย วันนี้เราก็เลยจะขอมาแชร์เทคนิคที่เราลองทำตามแล้วได้ผลให้น้องๆ ทุกคนลองนำไปทำตามดู
ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!
1.ตั้งใจฟังอาจารย์ สงสัยให้รีบถาม
เรื่องนี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่น้องๆ ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าในชีวิตจริง ก็ยังคงมีหลายๆ คนที่รู้สึกว่า ไม่อยากฟังอาจารย์พูดแล้ว! เดี๋ยวค่อยไปอ่านเอาเองทีหลังก็ได้ แต่การไปอ่านเอาเองทีหลังก็อาจทำให้น้องๆ ไม่เข้าใจเนื้อหาเท่าที่อาจารย์สอน เพราะอาจมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจารย์เน้นเป็นพิเศษเพราะออกสอบเยอะด้วย แถมถ้าน้องๆ ไม่ฟังอาจารย์ในคาบ ก็จะถามตรงจุดที่สงสัยไม่ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ยอมฟังแล้วไปอ่านเอาเองก็อาจไม่ได้คะแนนเท่าคนที่ตั้งใจฟังอาจารย์สอนก็ได้นะ!
2.อ่านหนังสือแล้วไม่เคลียร์ให้รีบจดคำถามไว้กันลืม
เวลาที่น้องๆ อ่านหนังสือทบทวนด้วยตัวเอง แน่นอนว่าคงมีหลายจุดที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ สงสัยขึ้นมา ขอแนะนำให้รีบจดคำถามนั้นใส่กระดาษหรือโน้ตไว้เลย เพราะถ้าเราอ่านหนังสือนานๆ จนเกิดข้อสงสัยหลายๆ จุดขึ้นมา กว่าจะอ่านจบ น้องๆ ก็อาจจะลืมสิ่งที่ตัวเองสงสัยไปแล้วหรือสับสนว่าเราสงสัยอะไรกันแน่ ถ้าเรารีบจดไว้ ก็จะทำให้ไม่ลืม แล้วก็ไปหาคำตอบเองทีหลังได้ หรือถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ก็ยังเอาคำถามพวกนี้ไปถามอาจารย์ต่อได้อีกด้วย วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ดูพื้นๆ เป็นวิธีอุดจุดบอดที่ดีมากๆ เลย
3.อ่านหนังสือหลายๆ เล่มเทียบกัน ไม่อ่านเล่มเดียว
ในคณะอักษร เราถูกสอนมาให้ตรวจสอบแหล่งข้อมูลและความถูกต้องของข้อมูลอยู่เสมอ ทำให้เด็กอักษรมักไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และมักหาข้อมูลจากหลายๆ ที่ เวลาอ่านหนังสือก็มักจะอ่านหลายๆ เล่ม แม้จะเป็นเนื้อหาเดียวกันก็ตาม
แต่จริงๆ แล้วการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกันหลายๆ เล่มยังมีประโยชน์มากกว่าการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอีกนะ! เพราะการอ่านหนังสือหลายๆ เล่ม ทำให้เราวิเคราะห์เนื้อหาที่เรามีอยู่แล้วในหัวโดยอัตโนมัติว่า ตรงนี้ที่เราเคยอ่านมาแล้วสินะ ตรงนี้อธิบายคล้ายกับเล่มนั้นเลยนะ ทำให้เราจดจำสิ่งที่อ่านได้มากขึ้น เพราะไม่ได้แค่อ่านให้ผ่านๆ ไป เฉยๆ แต่ยังคิดตามเนื้อหาที่อ่านอยู่เสมอโดยอัตโนมัติด้วย
ยังไม่พอนะ การอ่านแบบนี้น้องๆ ยังจะได้ความรู้เพิ่มขึ้นด้วย เพราะหนังสือแต่ละเล่มก็จะมีจุดที่แตกต่างกัน หนังสือเล่มนั้นอาจจะเขียนข้อมูลบางส่วนละเอียดกว่าหนังสืออีกเล่ม หนังสืออีกเล่มอาจไม่มีข้อมูลที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ รับรองเลยว่าอ่านไปสัก 3-4 เล่ม จะต้องเก่งขึ้นอย่างแน่นอน
4.หาวิธีสนุกกับการเรียน
เวลาที่เราทำอะไรแล้วรู้สึกสนุก ไม่ฝืน เราก็จะทำสิ่งนั้นได้อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน การเรียนก็เหมือนกัน น้องๆ ทุกคนควรหาวิธีเรียนที่ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการเรียนให้ได้ แน่นอนว่ากับบางวิชาที่เราไม่ชอบ การหาวิธีสนุกกับมันก็อาจจะยาก แต่ถ้าน้องๆ หาเจอ ก็อาจจะเริ่มสนุกกับวิชาที่เราเคยเกลียดและอาจจะไปถึงขั้นชอบวิชานั้นขึ้นมาก็ได้นะ
วันนี้เราก็จะมาขอแนะนำวิธีที่เคยเห็นเพื่อนๆ ใช้กัน
- เปิดวิดิโอ study with me เรียนไปพร้อมๆ กัน
Study with me เป็นหมวดคลิปใน Youtube ที่กำลังฮิตกันอยู่ช่วงนี้ เป็นคลิปที่เจ้าของคลิปถ่ายตัวเองตอนกำลังอ่านหนังสือเรียน อาจมีเพลงเบาๆ ประกอบ พี่เชื่อว่าน้องๆ หลายๆ คนก็คงเคยเห็นผ่านตามาบ้าง วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะกับช่วงเรียนออนไลน์มาก เพราะไม่ต้องออกไปเจอใคร ปลอดภัย แต่ช่วยให้เราไม่เหงา ไม่เบื่อ มีกำลังใจเรียนมากขึ้น เพราะรู้สึกว่ามีคนที่กำลังพยายามอยู่เหมือนกันเลย เราก็ต้องพยายามบ้างแล้ว!
แถมเราได้ยังได้เห็นวิธีเรียนของคนอื่นๆ ทั่วทุกมุมโลก ว่าเขาเรียนกันยังไง วิธีที่เราเห็นว่าน่าสนใจก็ยังเอามาปรับใช้กับตัวเราได้อีกด้วยนะ
- ใช้จินตนาการแต่งเรื่อง!
ใช้จินตนาการแต่งเรื่องในที่นี้คือ การเอาสิ่งที่เราเรียนมาแต่งเป็นเรื่องให้ตลก ให้สนุก สร้างสตอรีน่าสนใจ เวลาท่องหนังสือจะได้ไม่รู้สึกเบื่อ แถมจำติดสมองได้แม่น เช่น เอาคำศัพท์ที่ท่องมาแต่งเป็นเรื่อง เอาชื่อคนมาผูกกับสิ่งที่เขาทำ หรือแต่งเป็นเพลง เป็นกลอนก็ได้ ฟรีสไตล์ไปเลย แรกๆ อาจจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่เพราะความแปลกนี่แหละ ที่จะทำให้เราจำได้ !
5.อย่าให้สมองขาดน้ำตาล
วิธีนี้ได้มาจากอาจารย์ที่สอนวิชาล่ามภาษาญี่ปุ่น อาจารย์เปิดคลิปตอนพี่ล่ามทำงานให้ดู พี่ล่ามพกช็อกโกแลตไปกินตอนล่ามด้วย! ชอบมากขนาดนั้นเลยเหรอ! แต่อาจารย์ก็อธิบายว่า ที่พี่ล่ามเขาพกช็อกโกแลตเข้าไปกิน ไม่ใช่เพราะเขาชอบกินหรอก แต่เป็นเพราะงานล่ามเป็นงานที่ต้องใช้สมองประมวลผลตลอดเวลา เพราะต้องแปลไปกลับระหว่าง 2 หรือ 3 ภาษา ในเวลาสั้นๆ ทำให้สมองล้าได้ง่ายๆ ซึ่งวิธีช่วยให้สมองไม่ล้าง่ายๆ คือการกินน้ำตาลนั่นเอง
โดยเฉพาะน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เนื่องจากสมองนำน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาย่อยใดๆ ทั้งสิ้น การกินขนมที่มีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวอยู่ เช่น ช็อกโกแลต ลูกอม จึงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ล้าในเวลาอันสั้น
6.ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
ยุคสมัยนี้มีเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้เราหลายๆ อย่าง สมัยนี้มีแอปหลายๆ แอปที่ช่วยให้น้องๆ เรียนได้ดีขึ้นแล้วก็ยังสนุกมากขึ้นอีกด้วย
- แอป Forest
Andriod: โหลดที่นี่
อาจมีบางทีที่น้องๆ พยายามเรียน พยายามอ่านหนังสือ แต่ก็อดไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาดูทุก 5 นาที 10 นาที แล้วบางทีก็เผลอเข้าไอจี เข้าเฟส อ่านนิยาย อ่านการ์ตูน คราวนี้ยาวเลย 3 ชั่วโมงผ่านไป ง่วงซะแล้ว นอนดีกว่า เป็นอันจบวัน ยังไม่ได้อะไรเลย
แต่ไม่ต้องห่วง เจ้าแอป Forest ก็จะมาช่วยแก้ปัญหาติดมือถือนี้ให้เอง เพราะแอปนี้จะให้เราตั้งเวลาว่าเราจะไม่หยิบมือถือขึ้นมาเล่นเป็นเวลานานเท่าไร ซึ่งตอนแรกนอกจากเลือกตั้งเวลาแล้ว ก็ยังให้เราเลือกต้นไม้ที่เราอยากจะปลูกบนหน้าจอได้ด้วย ถ้าเราสามารถอดทนไม่หยิบมือถือขึ้นมาเล่นจนหมดเวลาที่ตั้งไว้ ต้นไม้ที่น้องๆ เลือกก็โตขึ้น ออกดอกสวยงามอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเรา ถ้าขยันตั้งเวลาบ่อยๆ เราก็จะมีต้นไม้เยอะขึ้น หลายชนิดขึ้น แล้วก็น้องๆ มีป่าสวยๆ เป็นของตัวเองเลย
- Clear-Notebook Sharing app-
Andriod: โหลดที่นี่
แน่นอนว่าจะขาดแอปนี้ไปได้ยังไง แอป Clear ของเรารวมโน้ตสวยๆ จากทั้งติวเตอร์และน้องๆ คนอื่นๆ ทั่วประเทศ ทำให้น้องๆ สามารถแชร์โน้ตสวยๆ ของตัวเองให้คนอื่นอ่านได้ แถมยังอ่านโน้ตที่คนอื่นแชร์มาได้อีกด้วย ยิ่งช่วงใกล้สอบนะ โน้ตดีๆ เต็มไปหมด อ่านกับแทบไม่หวาดไม่ไหว เด็กอักษรก็ใช้แอปนี้เหมือนกันนะ เพราะมีโน้ตสรุปศัพท์ภาษาอังกฤษเต็มเลย!
ยังไม่พอนะ ถ้าน้องๆ เขียนโน้ตสรุปเนื้อหาดีแล้วยังสวยถูกใจเพื่อนๆ ผู้ใช้แอปคนอื่นๆ น้องก็ยังขายโน้ตของตนเองเป็น Premium Note หาเงินค่าขนมผ่านแอป Clear ได้อีกด้วย ได้ 2 เด้งกันไปเลย><
7.นอนให้พอก่อนไปสอบ
ข้อนี้สำคัญที่สุดเลย น้องๆ ควรนอนให้พอในคืนก่อนสอบ ไม่ควรท่องหนังสือจนถึงเช้าตรู่ฟ้าสว่าง เพราะต่อให้จะจดจำเนื้อหาได้มากขึ้น แต่กว่าจะถึงเวลาเข้าห้องสอบ น้องๆ ก็จะง่วงจนไม่สามารถทำข้อสอบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วก็ทำให้คะแนนออกมาไม่ได้เท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นน้องๆ ก็ควรท่องหนังสือให้เสร็จในวันก่อนหน้านั้นแล้วอ่านนิดหน่อยในคืนก่อนสอบ แล้วก็นอนให้เต็มอิ่มพร้อมตื่นไปสอบจะดีกว่ากันเยอะเลย
เป็นยังไงกันบ้าง เทคนิคการเรียนแบบเด็กอักษร ไม่ยากเลยใช่ไหม อย่ารอช้า ลองเอาไปทำตามดูกันเลย พี่เชื่อว่าเกรดของน้องๆ จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน!