แลกเปลี่ยน ทุนมง และCOVID-19

สวัสดีค่า มีใครกำลังสนใจไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่มั้ยเอ่ย!?

วันนี้ Clearnote มีประสบการณ์แลกเปลี่ยนมาแชร์ให้เพื่อนๆกันด้วยค่ะ

ขอบอกเลยว่าผู้มาแชร์ประสบการณ์ให้กับเราวันนี้เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นสดๆร้อนๆ

แถมไปแลกเปลี่ยนตอนช่วงCovid-19อีก! จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรยังไงบ้าง มาอ่านด้วยกันเลยค่ะ

เพื่อนๆสามารถเลือกหัวข้อที่ต้องการด้านล่างนี้ได้เลยน้า


แนะนำตัวหน่อยจ้า

ชื่อ : วรฤทธิ์ ปิยวีรวงศ์

ประเทศที่ไปแลกเปลี่ยน  : ประเทศญี่ปุ่น

ระยะเวลา  :   1 ปีการศึกษา ตุลาคม 2564 – สิงหาคม 2565

มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยโอซาก้า

ทุนที่ได้รับ : ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students) ของทุนรัฐบาลญี่ปุ่น

อธิบายทุนแบบคร่าวๆให้ฟังหน่อยสิ

 ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นหรือทุน Monbukagakushou ที่หลายคนจะเรียกกันย่อ ๆว่าทุนมง เป็นทุนของกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นที่จะมอบให้นักเรียนหรือนักศึกษาจากประเทศต่าง ๆ มาเรียนในญี่ปุ่นตามระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่เสียค่าเทอมและยังมีเงินให้ทุกเดือนสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่างทุนที่เราได้คือทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students) เป็นทุนสำหรับนิสิตเอกญี่ปุ่นชั้นปีที่ 2 และปีที่ 3 โดยจะไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งปี นอกจากทางทุนจะออกค่าเทอม ยังออกค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับแล้ว ยังให้เงินค่าใช้จ่ายเดือนละ120,000 เยนอีกด้วย

คนสมัครเยอะมั้ย?

 อันนี้แล้วแต่ปีเลย ปีก่อนหน้าเรามีประมาณ 100 คน ปีที่เราไปมีคนสมัครประมาณ 50 คน แต่พอช่วงโควิดก็ลดลงมาเหลือประมาณ 30-40 คน

รีวิวการสอบให้ฟังหน่อยสิ

การสอบแบ่งเป็น 3 รอบ

รอบแรก ข้อเขียน

 เราต้องทำข้อสอบทั้งหมด 3 ชุด ประมาณ 27หน้า  ข้อสอบเป็นแบบตัวเลือกทั้งหมด มีเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แบ่งเป็นชุด A, Bและ C จะแบ่งตามระดับความยาก

    ชุด A ระดับ N5 – N4

    ชุด B ระดับ N3 – N2

    ชุด C ระดับ N1

รอบที่ 2 สัมภาษณ์

 รอบนี้สัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่น 2 คน คนไทย 1 คน โดยจะสัมภาษณ์ประมาณ 15-20 นาที  จะเป็นคำถามเกี่ยวกับ study plan ที่ส่งไปพร้อมใบสมัครตั้งแต่แรก เขาจะถามว่าทำไมถึงอยากไปมหาวิทยาลัยที่เราเลือก ในอนาคตอยากทำอาชีพอะไร กลับจากญี่ปุ่นแล้วจะทำอะไรต่อ เคยไปญี่ปุ่นมั้ย นอกจากไปเรียนอยากทำอะไรอีก คำถามรอบนี้แล้วแต่กรรมการเลย

รอบที่ 3 มหาวิทยาลัยเป็นผู้คัดเลือก 

 พอเราผ่านรอบสัมภาษณ์แล้วทางสถานทูตไทยจะส่งรายชื่อของเราไปให้กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น แล้วทางนั้นจะคัดเลือกอีกทีว่าจะให้ผ่านมั้ย คือไม่ใช่ว่าผ่านรอบสัมภาษณ์แล้วจะผ่านเลยนะ เพราว่ามีคนตกรอบนี้มาแล้วด้วยเหมือนกัน เราต้องศึกษามหาวิทยาลัยให้ดีก่อนที่จะเลือกว่าเข้ากับงานวิจัยที่เราจะทำมั้ย เช่น ถ้าทางมหาวิทยาลัยที่อยากไปเน้นด้านวัฒนธรรมแต่เรางานวิจัยเราเป็นภาษาศาสตร์ก็ควรเปลี่ยนไปเลือกมหาวิทยาลัยที่เน้นด้านภาษาศาสตร์แทน และเช็คว่าทางนั้นต้องการนักศึกษาที่มีทักษะภาษาญี่ปุ่นระดับ N อะไร ถ้าเตรียมตัวไปดีๆ ก็ไม่ต้องกังวลน้า

สรุประยะเวลาทั้งหมด

ผลกระทบจากการแลกเปลี่ยนช่วงโควิด

 โควิดระบาดช่วงประกาศผลว่าเราได้ไปพอดี ทางญี่ปุ่นก็ปิดประเทศ ทางทุนเลยให้เลือกว่าจะเรียนออนไลน์ หรือเลื่อนแลกเปลี่ยนไปอีกปีนึง หรือยกเลิกทุนไปเลย เราเลยเลือกเลื่อนไปอีกปีนึง ตอนนั้นก็วุ่นวายกับการจัดการพอสมควร ว่าถ้าไปแลกเปลี่ยนจะต้องกลับมาเรียนต่อมั้ย สถานภาพนิสิตจะเป็นยังไง ปรึกษาหลายคนมาก พอถึงเวลาแลกเปลี่ยนญี่ปุ่นก็ยังปิดประเทศอยู่ แต่คราวนี้เลื่อนไม่ได้แล้ว รอบนี้เลยเรียนออนไลน์ที่ไทย 1 เดือนกว่าๆ หลังจากนั้นก็ได้ไปที่ญี่ปุ่น เราได้ไปญี่ปุ่นตอนเปิดให้เข้าประเทศช่วงแรกๆ ที่ถ้าไปถึงแล้วต้องกักตัวทุกคน เลยต้องกักตัวที่โรงแรมก่อน 14 วัน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 เยน ค่าใช่จ่ายส่วนนี้ทุนไม่ได้ครอบคลุม ต้องออกเอง

ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยโอซาก้า?

 รุ่นพี่ที่เคยไปที่นี่มาก่อนบอกว่ามหาวิทยาลัยนี้ดี ทั้งสังคม อาจารย์ คอร์สเรียนต่างๆ และได้ยินว่าที่นี่มีเด็กต่างชาติเยอะ นอกจากอยากมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นแล้วก็อยากรู้จักเพื่อนๆ ต่างชาติ อยากแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และสนใจเมืองโอซาก้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย

เรียนหนักมั้ย?

 หนักมากกก เขาค่อนข้างคาดหวังกับเด็กทุนมง ต้องตั้งใจเรียน และต้องลงเรียนอย่างน้อยเทอมละ 11 ตัว แล้วปกติทุนมงต้องทำวิจัยด้วย แต่ที่มหาวิทยาลัยนี้มีให้เลือกคอร์สว่าจะเป็น 研究 หรือ 研修 อย่าง 研究 นี่คือการทำวิจัยในสิ่งที่เราสนใจ เราก็จะรู้ลึกในด้านนั้น ๆ ส่วนเราเลือกทำ 研修 จะเข้าร่วมสัมมนา 4 ครั้งแล้วเลือกมาครั้งหนึ่งเขียนรายงานส่ง 12หน้า เป็นเหมือนวิจัยย่อยๆ ข้อดีของอันนี้คือเราจะได้เข้าร่วมหลายคลาส ได้ประสบการณ์หลายๆ อย่าง

ช่วยเล่าความประทับใจให้ฟังหน่อย

 ประทับใจการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น บ้านเมืองสะอาด การเดินทางสะดวกสบาย ผู้คนใจดี ทุกๆ วันมีเป้าหมายว่าอยากจะทำอะไร สนุกกับการใช้ชีวิต ภาษาญี่ปุ่นก็พัฒนาขึ้น และก็เจอคนที่ชอบและสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นเหมือนกัน มีความชอบความสนใจคล้ายๆ กันทำให้ทุกวันสนุกมาก ได้เที่ยวเยอะด้วย🤭

มีculture shockมั้ย?

 ข้ามถนนง่าย ฟุตบาทดี รถมาค่อนข้างตรงเวลาทำให้วางแผนการเดินทางได้ดี แต่ว่าเคยมีครั้งหนึ่งไปต่างจังหวัดแถบชานเมือง รถบัสไม่มาเลยต้องยกเลิกแพลนแล้วนั่งรถไฟกลับแทน 🤣 

มีอะไรควรพกจากไทยไปมั้ย?

 อาหารสำเร็จรูป ผงปรุงรสต่าง ๆ เพราะบางทีจะคิดถึงรสชาติอาหารไทย เราเอามาม่าไป เพื่อนชาวต่างชาติสนใจรสต้มยำกุ้ง ก็ใช้เป็นของฝากได้ แล้วก็หน้าหนาวเตรียมเสื้อผ้าจากไทยไปก่อนก็ดี เช่น พวกเสื้อกันหนาว โค้ทสักตัว

สุดท้ายแล้ว มีอะไรอยากฝากถึงคนที่กำลังตัดสินใจไปแลกเปลี่ยนมั้ย?

 การแลกเปลี่ยนคือการที่เราจะไปอยู่ต่างประเทศ 1 ปีเนอะ อยากให้คิดก่อนว่าเราอยากไปมั้ย ถ้าอยากไปเชียร์ให้ไปเลย มันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีมากๆ เราจะได้ลองใช้ชีวิตคนเดียว ได้ฝึกภาษา เจอสังคมใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ ถ้าเป็นคนที่สนใจทางด้านภาษาและวัฒนธรรมอยู่แล้วก็คิดว่าควรลองไปแลกเปลี่ยน มันอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ถ้าลองบวกลบแล้วมันคุ้มค่าก็อยากให้ลองไปดู🥰

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *