นักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร? ต้องรู้อะไรบ้าง?

  สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนคงมีความสนใจเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเพราะนอกจากจะได้โอกาสในการเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในต่างแดนแล้ว การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนยังช่วยเปิดโลกในมุมมองใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองได้ดีขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้พี่ TUTOR VIP จะมาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้น้อง ๆ ที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับนักเรียนแลกเปลี่ยนให้มากขึ้น

เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ

นักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร?

  นักเรียนแลกเปลี่ยน (Exchange student) คือนักเรียนที่ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนในต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ในวัฒนธรรมและสังคมของประเทศนั้น ๆ โดยปกติแล้วจะเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ซึ่งนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่จะไปศึกษาในโรงเรียนที่มีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกับโรงเรียนต้นทางของตนเอง โดยพักอาศัยที่บ้านของโฮสแฟมิลี่หรือเช่าหอพักของโรงเรียน 

  การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ทำให้ได้เรียนรู้ด้านวิชาการและได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของประเทศอื่น ๆ รวมถึงได้พัฒนาทักษะการสื่อสารในภาษาต่างประเทศอีกด้วย

ขั้นตอนการสมัครเป็นอย่างไร?

  ขั้นตอนการสมัครอาจแตกต่างกันไปตามโปรแกรมและองค์กรที่เป็นผู้จัดโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน โดยขั้นตอนทั่วไปที่นักเรียนแลกเปลี่ยนจะต้องทำเมื่อต้องการสมัครมี ดังนี้ 

  1. ค้นหาโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สนใจ: อาจค้นหาจากประเทศปลายทางที่ตนสนใจก่อน เช่น ต้องการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น มีโครงการไหนเปิดรับบ้าง จะทำให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น เป็นต้น 
  2. ตรวจสอบเงื่อนไขการสมัคร: ควรตรวจสอบเงื่อนไขการสมัครให้แน่ใจว่าสามารถสมัครได้หรือไม่ เช่น บางโครงการอาจกำหนดเกรดเฉลี่ย, หรือต้องมีผลสอบวัดระดับภาษา เป็นต้น 
  3. กรอกแบบฟอร์มการสมัคร: กรอกแบบฟอร์มการสมัครโครงการแลกเปลี่ยนที่ต้องการโดยในแบบฟอร์มมักจะให้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง, ประวัติการศึกษา, ประสบการณ์ และข้อมูลทั่วไปอื่น ๆ 
  4. ยื่นเอกสารสมัคร: เมื่อกรอกแบบฟอร์มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องยื่นเอกสารสมัครพร้อมกับแบบฟอร์มการสมัคร โดยเอกสารการสมัครมักเป็น บัตรประชาชน, หนังสือรับรองผลการเรียน, หนังสือเดินทาง เป็นต้น
  5. เข้าร่วมการสัมภาษณ์: โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่จะมีการสัมภาษณ์นักเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ การสัมภาษณ์นั้นอาจจะเป็นการสัมภาษณ์ผ่านทางออนไลน์หรือเข้าร่วมการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนมีความพร้อมที่จะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือไม่
  6. รอการตอบรับ: หลังจากส่งเอกสารสมัครและเข้าร่วมการสัมภาษณ์แล้ว โครงการจะพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัคร และจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบในภายหลัง
  7. ยืนยันการเข้าร่วมโครงการ: เมื่อผ่านการคัดเลือกแล้ว จะต้องยืนยันการเข้าร่วมโครงการ และรับรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปยังประเทศปลายทาง

  อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการสมัครนักเรียนแลกเปลี่ยนอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโครงการ

ต้องสอบอะไรบ้าง? สอบชิงทุนอย่างไร?

  การสมัครนักเรียนแลกเปลี่ยนอาจมีการสอบคัดเลือก ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่แต่ละโครงการกำหนด นอกจากนี้แต่ละโครงการอาจพิจารณาจากคุณสมบัติอื่น ๆ ด้วย เช่น การพิจารณาจากผลการเรียน หรือผลสอบวัดระดับภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

  สำหรับการสอบชิงทุน โดยทั่วไปแล้วโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจะมีทุนเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการใช้ชีวิตในประเทศปลายทาง โดยการเข้าร่วมโครงการทุนนั้นอาจมีการสอบชิงทุนตามเกณฑ์ของแต่ละโครงการ ซึ่งประเภทของการสอบชิงทุนอาจแบ่งออกเป็น การสอบแบบสัมภาษณ์ และการสอบข้อเขียน โดยโครงการทุนอาจกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกโดยคำนึงถึงผลการเรียน ทักษะภาษา และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนั้น ๆ ด้วย

มีประเทศไหนที่เปิดรับนักเรียนแลกเปลี่ยนบ้าง?

  ปัจจุบันมีหลากหลายประเทศที่เปิดรับนักเรียนแลกเปลี่ยนเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป โดยด้านล่างนี้คือตัวอย่างของประเทศปลายทางที่ได้รับความนิยมในการไปแลกเปลี่ยน 

  • สหรัฐอเมริกา 
  • ออสเตรเลีย 
  • นิวซีแลนด์ 
  • ญี่ปุ่น 
  • เกาหลีใต้ 
  • เยอรมนี 
  • อิตาลี 
  • สเปน 
  • จีน
  • ฝรั่งเศส 
  • อังกฤษ
  • สวิตเซอร์แลนด์ 

เป็นต้น

  สามารถตรวจสอบรายชื่อประเทศโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของโครงการแลกเปลี่ยนที่น้อง ๆ สนใจได้เลย

ตัวอย่างโครงการแลกเปลี่ยนยอดฮิต

  มีโครงการแลกเปลี่ยนยอดฮิตหลายโครงการที่มีความนิยมในปัจจุบัน เช่น

  • โครงการ Rotary Youth Exchange Program 
  • โครงการ AFS Intercultural Programs 
  • โครงการ Youth For Understanding (YFU)
  • โครงการ EF Education First 
  • โครงการ IEE (International Education Exchange) 
  • โครงการ LACEL Education

  เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ + มีทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนให้ไหม?

  ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจะแตกต่างกันไปตามโครงการและประเทศปลายทางที่เลือกไปศึกษา เช่น

  • โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกับ AFS Thailand – โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 200,000 – 400,000 บาทต่อปี ซึ่งรวมถึงค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
  • โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน YFU – โดยปกติแล้ว YFU มีค่าใช้จ่ายในโครงการปกติ ประมาณ 200,000 – 400,000 บาท 

  เป็นต้น

  อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามประเทศและโครงการที่เลือก บางโครงการอาจมีทุนการศึกษาหรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการด้วย จึงควรติดต่อสอบถามข้อมูลโครงการและค่าใช้จ่ายจากผู้จัดการโครงการก่อนทำการสมัครเพื่อที่จะได้รับข้อมูลและตัดสินใจได้ถูกต้องครบถ้วน

  ในส่วนของทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ ซึ่งอาจมีการเสนอทุนให้กับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มีผลการสอบยอดเยี่ยม หรือเป็นทุนสำหรับผู้ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างไรก็ตามการเสนอทุนมักมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต้องปฏิบัติตาม และค่อนข้างมีการแข่งขันสูง ดังนั้นหากน้อง ๆ สนใจควรค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและทุนเพิ่มเติม โดยสามารถหาข้อมูลเกี่ยวได้จากเว็บไซต์ของโครงการ

  หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่สนใจและกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกันนะ


  ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ

  บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

สนใจเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศตัวต่อตัว เพื่อเตรียมตัวไปเรียนแลกเปลี่ยน ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP 

ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *