หากพูดถึงประเทศที่นักเรียนไทยนิยมไปศึกษาต่อ “ประเทศสหรัฐอเมริกา” น่าจะเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักเรียนหลายคนใฝ่ฝัน เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษแล้ว สหรัฐอเมริกายังมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกมากมาย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความเสรี และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นประเทศหนึ่งที่เหมาะจะไปเก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์ ในบทความนี้พี่ TUTOR VIP จะมาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้น้อง ๆ ที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาให้มากขึ้น
เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ
- เรียนต่อมัธยมที่อเมริกา ดีอย่างไร?
- ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอย่างไร?
- หลักสูตรการเรียนต่อ มือะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่อที่อเมริกา มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในอเมริกา
- ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่ออเมริกาทำ visa ยากไหม?
- สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
เรียนต่อมัธยมที่อเมริกา ดีอย่างไร?
การเรียนต่อมัธยมศึกษาที่อเมริกาเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน เช่น
- ระบบการศึกษาที่หลากหลาย: โรงเรียนมัธยมในอเมริกามีระบบการศึกษาที่หลากหลาย สามารถเลือกเรียนวิชาต่างๆ และเลือกเส้นทางการศึกษาตามความสนใจและแผนในอนาคตของตนเองได้
- มีมาตรฐานการศึกษาสูง: ระบบการศึกษาของอเมริกามีมาตรฐานสูงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
- การเรียนรู้ที่ใด้สัมผัสประสบการณ์จริง: การเรียนการสอนในอเมริกาไม่ได้เน้นให้เรียนรู้แบบ Passive เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง โดยนำเทคนิคและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ เช่น การเรียนรู้โดยการเล่นเกม, การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และจดจำได้ดีขึ้น
- ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักในการสื่อสารกับผู้คนทั่วโลก
- โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลก: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา
- ได้พัฒนาตัวเอง: การเรียนต่อมัธยมที่อเมริกาช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะและความสามารถต่างๆ เช่น ทักษะการเรียนรู้เชิงวิชาการ, ทักษะการแก้ปัญหา, ทักษะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง
เป็นต้น
ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอย่างไร?
ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระบบการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมไปพร้อมกับความรู้เชิงวิชาการ โดยแบ่งออกเป็นระดับการศึกษา 4 ช่วง ดังนี้
- ระดับประถมศึกษา (Grade 1-6)
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Grade 7-8)
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Grade 9-12)
- ระดับอุดมศึกษา
และแบ่งประเภทโรงเรียนออกเป็น 2 แบบ หลัก ๆ ดังนี้
- โรงเรียนรัฐบาล (State School) เป็นโรงเรียนที่อยู่ในการดูแลของรัฐบาลในแต่ละรัฐ นักเรียนต่างชาติสามารถไปศึกษาผ่านโครงการแลกเปลี่ยนได้เท่านั้น และศึกษาได้เพียง 1 ปีการศึกษา
- โรงเรียนเอกชน (Private School) นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าศึกษาได้ แต่ละโรงเรียนจะมีจุดเด่น และหลักสูตรแตกต่างกันไป
หลักสูตรการเรียนต่อ มีอะไรบ้าง?
หลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเรียนทั้งหมด 4 ปี ตั้งแต่ Grade 9 -12 โดยละโรงเรียนจะมีแผนการเรียนต่างกันออกไป แบ่งเป็น 4 แบบหลัก ๆ ได้แก่
- Advance Placement (AP) เป็นแผนการเรียนรายวิชาของระดับมหาวิทยาลัยล่วงหน้าสำหรับนักเรียนที่เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ เมื่อศึกษาครบหลักสูตรจะสามารถนำคะแนนที่เรียนไปใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หรือเทียบโอนหน่วยกิตบางรายวิชาในมหาวิทยาลัยได้ด้วย โดยมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกามักจะให้ความสำคัญกับนักเรียนที่เรียนในแผน AP อย่างไรก็ตามแผนการเรียนนี้เป็นแผนการเรียนที่ไม่ได้บังคับ สามารถเลือกเรียนได้ตามความสมัครใจ
- Honor Class เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความตั้งใจจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนสามารถสะสมคะแนน GPA เพื่อใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้
- College Prep เป็นแผนการเรียนสำหรับเตรียมศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่เนื้อหาวิชามีความเข้มข้นน้อยกว่า Honor Class
- ESL เป็นแผนการเรียนพิเศษสำหรับปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติ โดยจะเป็นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับเนื้อหาและคำศัพท์ในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมทักษะภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติสามารถเข้าไปเรียนในแผน Honor Class หรือ College Prep ต่อไปได้
นอกจากการเรียนรู้วิชาต่างๆ ยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาตนเอง เช่น กิจกรรมชมรม, งานอาสา, งานบริการชุมชน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ได้พัฒนาบุคลิก, การเข้าสังคม และทักษะที่สำคัญต่อการเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่สังคมและการทำงานในอนาคต
การไปเรียนต่อที่อเมริกา มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
การไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อเมริกามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากนักเรียนต่างชาติสามารถเลือกเรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน โดยค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะมี ค่าเทอม, ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของโรงเรียน, ค่าโฮสต์ หรือค่าหอพักกรณีอยู่โรงเรียนประจำ, ค่าอาหาร เป็นต้น โดยทั่วไปโรงเรียนเอกชนระดับ High School ในอเมริกาจะมีค่าเล่าเรียนเฉลี่ยประมาณ 15,645 USD/ปี หรือประมาณปีละ 540,000 บาท หากเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงหรืออยู่ในเมืองใหญ่จะมีค่าเทอมสูงกว่านี้
อย่างไรก็ตามสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของได้โดยติดต่อโรงเรียนที่สนใจได้โดยตรง
ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในอเมริกา?
มีโรงเรียนหลายแห่งที่เป็นที่นิยมในอเมริกา โรงเรียนหลายแห่งมีประวัติความเป็นมายาวนาน มีชื่อเสียง และมีมาตรฐานทางวิชาการสูง โดยผลการจัดอันดับโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดประจำปี 2023 โดย Niche.com มีดังนี้
- Phillips Academy Andover
- Harvard-Westlake School
- Choate Rosemary Hall
- Phillips Exeter Academy
- Groton School
- Trinity School
- St. Mark’s School of Texas
- The College Preparatory School
- Commonwealth School
- The Nueva School
เป็นต้น
สามารถดูรายละเอียด และรีวิวของแต่ละโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่ คลิก
ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนมัธยมที่อเมริกานั้นมีหลายอย่างที่ควรพิจารณา ดังนี้
- ค้นหาโรงเรียนที่ใช่: โดยพิจารณาจากหลักสูตร, ค่าใช้จ่าย, และทำเลที่ตั้งของโรงเรียน
- ทักษะภาษาอังกฤษ: ควรเตรียมตัวให้มีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ไม่เฉพาะภาษาในชีวิตประจำวัน แต่รวมไปถึง Academic English ด้วย เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาในการเรียน
- ผลสอบวัดความสามารถ: บางโรงเรียนในอเมริกาอาจต้องการผลการสอบวัดความสามารถ เช่น SAT หรือ ACT เพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียน
- เอกสารสำหรับการยื่นวีซ่า: การจะไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อเมริกาจะต้องมีวีซ่าที่ถูกต้อง โดยต้องไปยื่นวีซ่าที่สถานทูตอเมริกาในประเทศตนเอง
การไปเรียนต่ออเมริกาทำ visa ยากไหม?
การทำวีซ่าไปเรียนต่อที่อเมริกาไม่ยากมาก แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเอกสารที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การยื่นวีซ่าเป็นไปได้สะดวกและรวดเร็ว โดยประเภทวีซ่าที่ต้องขอคือ วีซ่า F-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อที่อเมริกา โดยสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนขอยื่นวีซ่า F-1 มี ดังนี้
- สมัครเรียนและได้รับแบบฟอร์มตอบรับเข้าศึกษา (I-20) จากโรงเรียนแล้ว ต้องเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก Student and Exchange Visitor Program (SEVP) สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนได้ ที่นี่
- สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
- มีสปอนเซอร์สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนจนจบ
ในส่วนของเอกสารที่จำเป็นในการขอยื่นวีซ่า F-1 มี ดังนี้
- หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ตั้งใจจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างน้อย 6 เดือน
- ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
- ภาพถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- แบบฟอร์มการตอบรับเข้าศึกษา (I-20) ที่ได้รับจากโรงเรียน
- ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
- เอกสารอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ, เอกสารการเงิน Bank Statement ของสปอร์นเซอร์ย้อนหลัง 6 เดือน, Transcript, เอกสารรับรองผลสอบวัดความรู้(กรณีที่ทางโรงเรียนต้องการ) เป็นต้น
เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้วสามารถยื่นขอวีซ่าทางออนไลน์ได้ ที่นี่ หากเตรียมเอกสารครบถ้วน และยื่นสมัครพร้อมชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสัมภาษณ์ที่สถานทูต หากเตรียมพร้อมดีมีแผนการศึกษาต่อชัดเจน ก็สามารถผ่านวีซ่า F-1 ได้ไม่ยาก
สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
น้อง ๆ สามารถไปเรียนมัธยมที่อเมริกาเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนพาไป อย่างไรก็ตามในการอาศัยในอเมริกาหากมีอายุต่ำกว่า 19 ปี ตามกฎหมายแล้วจะต้องมีผู้ดูแล จึงจำเป็นที่จะต้องหา Host Family ที่สามารถดูแลน้อง ๆ ขณะที่ศึกษาที่อเมริกาด้วย หรือสามารถเลือกไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำซึ่งมีหอพักสำหรับนักเรียนก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของทุนการศึกษา การไปเรียนมัธยมที่อเมริกาหากมีสปอร์เซอร์ที่รับผิดชอบค่าการศึกษา และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่อเมริกาได้ก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องขอทุน
กรณีที่ไม่มีสปอนเซอร์ในปัจจุบันมีหลากหลายองค์กรที่สนับสนุนทุนทั้งเต็มจำนวนให้กับนักเรียนต่างชาติที่สนใจไปศึกษาในโรงเรียนมัธยมในอเมริกาแบบทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว เช่น
- Kennedy-Lugar Youth Exchange and Study (YES) Program
- Future Leaders Exchange (FLEX) Program
- United World Colleges (UWC) Scholarship Program
- American Field Service (AFS) Scholarship Program
เป็นต้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่และกำลังสนใจไปเรียนต่อมัธยมที่อเมริกากันนะ
ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้เลย พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
สนใจเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศตัวต่อตัว เพื่อเตรียมตัวไปเรียนแลกเปลี่ยน ติดต่อได้ที่👇
LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/