“ประเทศจีน” เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของการไปศึกษาต่อของนักเรียนจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อีกทั้งในปัจจุบันยังเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของโลก ในบทความนี้พี่ TUTOR VIP จึงจะมาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้น้อง ๆ ที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเรียนต่อมัธยมที่จีนให้มากขึ้น
เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ
- เรียนต่อมัธยมที่จีน ดีอย่างไร?
- ระบบการศึกษาในประเทศจีน เป็นอย่างไร?
- หลักสูตรการเรียนต่อ มือะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่อที่จีน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในจีน
- ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่อที่จีนทำ visa ยากไหม?
- สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
เรียนต่อมัธยมที่จีน ดีอย่างไร?
การเรียนต่อมัธยมศึกษาที่ประเทศจีนเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน เช่น
- ได้พัฒนาทักษะภาษาจีนกลาง: ภาษาจีนกลางเป็นภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในโลกโดยมีผู้พูดเป็นภาษาแม่มากถึง 1.1 พันล้านคน ทำให้หากได้ภาษาจีนกลางก็จะช่วยเพิ่มโอกาสต่าง ๆ ได้มากขึ้น
- ได้สัมผัสวัฒนธรรมจีน: ประเทศจีนเป็นประเทศที่ร่ำรวยประวัติศาสตร์ การได้มาเรียนที่จีนทำให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสได้สัมผัสกับวัฒนธรรมจีนทั้งในด้านประวัติศาสตร์, วรรณกรรม, อาหาร เป็นต้น
- ได้เพื่อนจากนานาประเทศ: ปัจจุบันประเทศจีนเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักเรียนจากทั่วโลก ทำให้น้อง ๆ มีโอกาสได้พบปะกับเพื่อนร่วมชั้นจากนานาประเทศ ได้สัมผัสวัฒนธรรมและมุมมองที่หลากหลาย
- ได้พัฒนาทักษะทางวิชาการ: หลักสูตรการเรียนมัธยมของประเทศจีนขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นทางวิชาการ ทำให้ทักษะทางวิชาการของน้อง ๆ จะแน่นขึ้นแน่นอน
- ได้พัฒนาตัวเอง: การเรียนต่อมัธยมที่จีนช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะและความสามารถต่างๆ เช่น ทักษะการเรียนรู้เชิงวิชาการ, ทักษะการแก้ปัญหา, ทักษะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง
- โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ: คุณภาพการศึกษาของประเทศจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยจากจีนติด Top 100 ของโลกถึง 10 แห่ง มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ทำให้หากจบการศึกษาระดับมัธยมจากจีนแล้ว โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกในจีนจะเปิดกว้างขึ้นด้วย
อ้างอิงจาก: QS World University Rankings 2023: Top global universities
เป็นต้น
ระบบการศึกษาในประเทศจีนเป็นอย่างไร?
ระบบการศึกษาในประเทศจีนมีความคล้ายคลึงกับหลายประเทศ ทำให้นักเรียนจากต่างชาติสามารถปรับตัวเข้ากับระบบได้ไม่ยาก โดยแบ่งระดับการศึกษาออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
- การศึกษาภาคบังคับ: ประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนต้น (9 ปี)
- การศึกษาระดับ Secondary Education: มัธยมศึกษาตอนปลาย (3 ปี)
- การศึกษาระดับ Higher Education: มหาวิทยาลัย
สำหรับโรงเรียนมัธยมในประเทศจีนแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- Public Schools โรงเรียนรัฐบาล เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยรัฐบาล มีค่าเล่าเรียนถูกกว่าโรงเรียนประเภทอื่น ๆ มีวิชาเรียนหลากหลาย หลักสูตรออกแบบมาเพื่อเตรียมพร้อมนักเรียนเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา
- Private Schools โรงเรียนเอกชน จะมีแผนการเรียนหลากหลายกว่าโรงเรียนรัฐบาล เช่น หลักสูตรสองภาษา, แผนการเรียนที่เน้นด้านดนตรีและศิลปะ เป็นต้น
- Vocational High Schools โรงเรียนวิชาชีพ เป็นโรงเรียนสำหรับเตรียมความพร้อมนักเรียนเข้าสู่ตลาดแรงงาน หลักสูตรการเรียนจะเจาะลึกในสาขาต่าง ๆ เช่น วิศวกรรม, เกษตรกรรม, พาณิชยกรรม เป็นต้น
หลักสูตรการเรียนต่อ มีอะไรบ้าง?
หลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ของประเทศจีนจะแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นระดับที่อยู่ในการศึกษาภาคบังคับ ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี หลังจบการศึกษาสามารถเลือกศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเลือกศึกษาต่อในโรงเรียนวิชาชีพได้
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แบ่งรูปแบบการเรียนเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
- สายสามัญ เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
- สายวิชาชีพ เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่ต้องการเน้นเรียนเจาะลึกในสาขาวิชาชีพ
การไปเรียนต่อที่จีน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
การไปเรียนต่อระดับมัธยมที่จีนมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากหากเทียบกับการไปเรียนที่อังกฤษและอเมริกา โดยค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะมี ค่าเทอม, ค่าหอพัก, ค่าGuardian Fees, ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เป็นต้น โดยทั่วไปโรงเรียนรัฐบาลระดับม.ปลายในจีนจะมีค่าเล่าเรียนประมาณ 50,000 หยวน/ปี หรือประมาณปีละ 245,000 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าหอพัก, ค่าGuardian Fees และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของได้โดยติดต่อโรงเรียนที่สนใจได้โดยตรง
ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในจีน
จากการจัดอันดับโรงเรียนยอดนิยมในจีนโดย World’s Best High School Ranking 2023 มีโรงเรียน 10 อันดับแรก ดังนี้
- High School Affiliated to Renmin University of China (Beijing)
- High School Affiliated to Peking University (Beijing)
- High School Affiliated to Tsinghua University (Beijing)
- Beijing No. 4 High School
- Shanghai High School
- Nanjing Foreign Language School
- Jinling High School
- Hangzhou Foreign Language School
- Chengdu No. 7 High School
- Shenzhen High School
โรงเรียนข้างต้นล้วนเป็นโรงเรียนที่มีความโดดเด่นในด้านวิชาการ, กิจกรรมนอกห้องเรียน, มีสัดส่วนนักเรียนต่างชาติมาก และให้ความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียน
ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนมัธยมที่จีนนั้นมีหลายอย่างที่ควรพิจารณา ดังนี้
- ค้นหาโรงเรียนที่ใช่: โดยพิจารณาจากหลักสูตร, ค่าใช้จ่าย, และทำเลที่ตั้งของโรงเรียน
- ทักษะภาษาจีน: ควรเตรียมตัวให้มีความรู้ความเข้าใจภาษาจีนให้มากที่สุด โดยเฉพาะหากต้องการไปเรียนในโรงเรียนที่ไม่ใช่ International Schools
- เนื้อหาการเรียน: ก่อนไปเรียนที่จีน น้อง ๆ ควรลองหาตำราเรียนของประเทศจีนมาอ่าน และลองทำข้อสอบดู เพื่อให้เกิดความคุ้นชินในเนื้อหา และคำศัพท์ที่ใช้ในแต่ละรายวิชา
- เอกสารสำหรับการยื่นวีซ่า: การจะไปเรียนต่อระดับมัธยมที่จีนจะต้องมีวีซ่า X1 โดยมีเอกสารที่จำเป็น อาทิ หนังสือเดินทาง, เอกสารตอบรับเข้าศึกษา, และ Bank Statement เป็นต้น
- เปิดใจให้กว้าง หากน้อง ๆ ไปเรียนต่อมัธยมที่ประเทศจีนจะได้พบกับประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ จึงควรเปิดใจให้กว้างพร้อมเผชิญหน้ากับประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ
การไปเรียนต่อจีน ทำ visa ยากไหม?
การทำวีซ่าไปเรียนต่อที่ประเทศจีน มีขี้นตอนไม่ยุ่งยากแต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเอกสารที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การยื่นวีซ่าเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประเภทวีซ่าที่ต้องขอคือ X1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อระยะยาวที่จีน โดยเอกสารที่จำเป็นในการขอยื่น วีซ่า X1 มี ดังนี้
- เอกสารตอบรับเข้าศึกษาจากโรงเรียน
- แบบฟอร์มใบสมัครวีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาที่ประเทศจีน” (แบบฟอร์ม JW201/202) ใช้เพื่อยืนยันสถานะนักเรียนและข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมการศึกษา, ระยะเวลาที่พำนักอยู่ และการสนับสนุนทางการเงิน
- หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
- ภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- ใบรับรองสุขภาพจากสถาบันทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ
- เอกสาร Bank Statement (ของผู้ปกครอง หรือสปอนเซอร์)
โดยหลังจากยื่นขอวีซ่าแล้ว จะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 สัปดาห์
สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
น้อง ๆ สามารถไปเรียนมัธยมที่จีนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนพาไป อย่างไรก็ตามในการเรียนระดับมัธยม จำเป็นต้องหา Guardian ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองในขณะที่เรียนอยู่ที่จีนด้วย
ในส่วนของทุนการศึกษา การไปเรียนมัธยมที่จีน หากมีสปอร์เซอร์ที่รับผิดชอบค่าการศึกษา และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่จีนได้ก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องขอทุน
กรณีที่ไม่มีสปอนเซอร์ในปัจจุบันมีทุนสนับสนุนทั้งจากโรงเรียนและองค์กรต่าง ๆ ให้กับนักเรียนต่างชาติที่สนใจไปศึกษาในโรงเรียนมัธยมในจีน เช่น
- Chinese Government Scholarship: ทุนรัฐบาลจีนเป็นทุนการศึกษาที่รัฐบาลจีนสนับสนุนค่าเล่าเรียน, ค่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้กับนักเรียนจากประเทศกำลังพัฒนา
- Confucius Institute Scholarship: เป็นทุนที่สนับสนุนโดยสถาบันขงจื่อให้กับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจีน โดยครอบคลุมค่าเล่าเรียน, ค่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- China Scholarship Council Scholarship: เป็นทุนที่สนับสนุนโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนการศึกษาของรัฐบาลจีนให้กับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเรียนที่ประเทศจีน โดยครอบคลุมค่าเล่าเรียน, ค่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน .
เป็นต้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่และกำลังสนใจไปเรียนต่อมัธยมที่ประเทศจีนกันนะ
ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้เลย พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
สนใจเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศตัวต่อตัว เพื่อเตรียมตัวไปเรียนแลกเปลี่ยน ติดต่อได้ที่👇
LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/