บันทึกประสบการณ์นิสิตแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น – ม.ริคเคียว
น้อง ๆ คนไหนที่กำลังสนใจ หรือวางแผนจะไปเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ แนะนำให้อ่านเรื่องราวประสบการณ์การเป็นนิสิตแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นจากพี่นาร่าเลย ! อ่านบทความนี้แล้วสนใจเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกันมั้ยเอ่ย? โปรไฟล์ ชื่อเล่น:นาร่าปีที่ไปแลกเปลี่ยน : 2019 - 2020ประเทศที่ไปแลกเปลี่ยน: ญี่ปุ่นเมือง: โตเกียวมหาวิทยาลัย: Rikkyo Universityช่วงระยะเวลา: 2019/9 - 2020/8 ก่อนไปแลกเปลี่ยน ทำไมถึงตัดสินใจไปแลกเปลี่ยน? เนื่องจากมีความฝันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะว่าอยากไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะชอบเครื่องแบบนักเรียน ตัวโรงเรียน และพวกเรื่องชมรมต่าง ๆ ของญี่ปุ่น แต่หากไปแลกเปลี่ยนช่วงมัธยม ค่าใช้จ่ายในการไปแลกเปลี่ยนนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ต้องล้มเลิกไป แต่เมื่อได้เข้าเรียนเอกญี่ปุ่น นิสิตส่วนใหญ่ก็ไปแลกเปลี่ยนกันช่วงประมาณหลังจบปี 3 เพื่อพัฒนาความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง บวกกับเพื่อหาประสบการณ์ต่างประเทศ เพราะอยู่ในประเทศไทยไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดหรือได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นมากเท่าไรนัก และคิดว่าถ้าไปอยู่ญี่ปุ่นสักพักหนึ่งน่าจะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นแทบทั้งวันและทุกวัน ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนา จึงตัดสินใจไปแลกเปลี่ยนค่ะ ทำไมถึงเลือกไปแลกเปลี่ยนที่ Rikkyo University? เหตุผลแรกที่มหาวิทยาลัยริคเคียวเนื่องจากตัวแคมปัสของมหาวิทยาลัยสวยค่ะ แคมปัสของมหาวิทยาลัยมีสองที่คือที่อิเคะบุคุโระ (โตเกียว) และนีซ่า (ไซตามะ) ซึ่งนั่งรถไฟห่างกัน 20 นาที และตอนอยู่หอก็อยู่หอใกล้ ๆ นีซ่าแคมปัสค่ะ แต่ส่วนใหญ่เลือกลงวิชาที่อยู่อิเคะบุโคโระแคมปัส เพราะชอบแคมปัสนั้นมากกว่านิดหน่อย มีต้นคริสมาสต์ใหญ่มากตั้งอยู่ข้างหน้าสองต้นด้วยค่ะ ซึ่งช่วงเทศกาลคริสมาสต์ก็จะมีการประดับไฟต้นคริสมาสต์ ทำให้นักเรียนที่นี่ก็ตั้งตารอกันสุด ๆ ค่ะ แล้วก็โรงอาหารของแคมปัสนี้เลื่องชื่อมาก ว่าให้ฟีล harry potter แต่นีซ่าแคมปัสเองก็สวยไม่แพ้กันนะคะ เหตุผลที่สองคือริคเคียวเป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักเรียนต่างชาติมาแลกเปลี่ยนเยอะค่ะ ทำให้ไม่ใช่แค่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย และนักเรียนที่นี่ก็พูดอังกฤษกันได้เยอะมาก ๆ ค่ะ เหตุผลสุดท้ายก็คือเรื่องทุนค่ะ คือตัวทุนเป็นขององค์กรชื่อ Sato Yo ซึ่งมอบทุนให้นักเรียนจากSouth east asiaที่มาแลกเปลี่ยนที่นี่ ซึ่งริคเคียวก็เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการนั้นด้วย ทำให้สามารถขอทุนได้ค่ะ ตัวทุนนี้จะได้เท่ากับทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่ต้องเขียนรีพอร์ทประจำเดือนส่งทุกเดือน และมีกิจกรรมของทุนให้เข้าร่วมค่ะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นทุนที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ทั้งนี้ยังมีทุนแจสโซ่ที่นักเรียนที่จะมาแลกเปลี่ยนที่ริคเคียวสามารถสมัครได้ด้วยค่ะ ก่อนมาแลกเปลี่ยนมีเรื่องที่กังวลใจหรืออุปสรรคอะไรบ้างไหม? ก่อนที่จะมาญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรกังวลเท่าไหร่ แค่รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นประเทศที่อยากไปแลกเปลี่ยนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลายคนอาจจะกังวลว่ามาแล้วจะมีเพื่อนไหม จะคุยกับคนอื่นรู้เรื่องไหม จะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศคนเดียวรอดหรือเปล่า ความจริงคือไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะที่จริงที่นี่ก็มีคนไทยอยู่กันค่อนข้างเยอะ เจอคนไทยบ่อยมาก ๆ แต่บอกตามตรงว่าริคเคียวมีคนไทยไปแลกเปลี่ยนน้อยมากค่ะ ตอนปีที่ไปมีกันแค่สองคน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้เพื่อนเป็นชาวต่างชาติมากกว่า ถึงพูดญี่ปุ่นหรืออังกฤษไม่ได้ แต่นักเรียนที่นี่เป็นมิตรและใจดีมากค่ะ ชวนไปเที่ยวไปสังสรรค์และช่วยเหลือกันตลอด แต่ที่ยากคือเวลาทำเรื่องเกี่ยวกับทางการ หากไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นอาจจะเป็นปัญหานิดนึงค่ะ แต่ทั้งเพื่อนญี่ปุ่นและเพื่อนต่างชาติก็จะคอยช่วยคอยช่วยเหลือเราเต็มที่ค่ะ ระหว่างที่ไปแลกเปลี่ยน Rikkyo University เป็นมหาวิทยาลัยแบบไหนและได้ลงเรียนวิชาอะไรบ้าง? เรื่องวิชาที่เรียนนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกสาขาวิชาอะไรไป บางสาขาวิชาอย่างของเรา เราจะสามารถเลือกลงวิชาอะไรก็ได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็นวิชาที่ยากหน่อยหรือของเอกอื่น ก็จะมีเงื่อนไข เช่น ต้องผ่านวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับนี้ของมหาวิทยาลัยเขานะ ถึงจะลงวิชานี้ได้ แต่อย่างเพื่อนเราเลือกเอกการท่องเที่ยว ก็ต้องลงวิชาที่ต้องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อนำไปคิดเกรดกับทางมหาวิทยาลัยที่ไทยด้วยค่ะ (แล้วแต่เงื่อนไขตามแต่ละมหาวิทยาลัยต้นทาง) แต่นอกจากนั้นก็เลือกลงได้หมดเช่นกัน วิชาที่เลือกลงไปนั้นหลากหลายมาก ๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่นก็เช่น จิตวิทยา…