เจาะเคล็ดลับเข้านิเทศ จุฬาฯ ผ่านบทสัมภาษณ์รุ่นพี่จบใหม่

เจาะเคล็ดลับเข้านิเทศ จุฬาฯ ผ่านบทสัมภาษณ์รุ่นพี่จบใหม่

9วิชาสามัญ, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, PAT1, PAT7, PAT7, บทความสัมภาษณ์, ภาษาอังกฤษ, เคล็ดลับการเรียน
เจาะเคล็ดลับเข้านิเทศ จุฬาฯ ผ่านบทสัมภาษณ์รุ่นพี่จบใหม่ สวัสดีค่ะ น้อง ๆ ทุกคน วันนี้เราจะพาน้อง ๆ ทุกคนมาสัมภาษณ์พี่ทราย สาวจบใหม่ดีกรีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งน่าจะเป็นคณะในฝันของใครหลาย ๆ คน ว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าพี่ทรายมีเคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนสอบอะไรบ้าง Q: แนะนำตัวกันหน่อย ทราย: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อทรายนะคะ ตอนนี้ก็เพิ่งเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการโฆษณา หรือที่เรียกกันว่า “AD (แอด)” แต่ต้องบอกน้อง ๆ ก่อนว่าคณะของเรามีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรตั้งแต่ปี2561ทำให้ชื่อสาขานี้เปลี่ยนไปเป็น “สาขาการโฆษณาและการสื่อสารตราสินค้า หรือABC” นั่นเองค่า ละครนิเทศ จุฬาฯ เรื่อง THE VILLA SMARIS ละครที่เป็นแรงบันดาลใจของทราย ที่มา: https://teen.mthai.com/activities/104835.html Q: ทำไมอยากเข้าคณะนี้ ทราย: ที่จริงเราไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนขนาดนั้นว่าอยากทำงานแบบไหน แต่ตอนม.ปลายเราเอนจอยกับการทำงานที่จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ชอบถ่ายรูป งานที่ต้องตัดต่อถ่ายคลิปวิดิโอ เลยคิดว่าถ้าได้เรียนได้ทำนู่นทำนี่คงจะสนุกดี พอดีกับที่เราได้ไปดูละครนิเทศ จุฬาฯ ตอนม.5 ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้สนใจและอยากเรียนต่อที่คณะนี้ Q: เล่าเรื่องภาค AD ให้ฟังหน่อย ทราย: เราก็จะเรียนตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภค การวางแผนสื่อ การวิจัยตลาด ทำแคมเปญ การเขียนบท งานศิลป์ ไปจนถึงงานกราฟฟิคโฆษณา เป็นสาขาที่ทำให้ได้เรียนรู้สกิลหลาย ๆ อย่าง อย่างเราเป็นคนที่ก่อนหน้านี้ใช้Photoshop AIไม่เป็นเลย แต่หลังจากที่ลองเรียนเทอมเดียว เราก็ใช้เป็นและมีประโยชน์กับเรามาจนถึงทุกวันนี้ Q: เริ่มเตรียมตัวสอบตอนไหน ทราย: คือนิเทศ จุฬาฯ ใช้คะแนน GPAX+GAT+PAT7 (หรือPAT1) ซึ่งตัวเราก็รู้ตัวว่าวิชาหลัก ๆ อย่างวิชาภาษาอังกฤษ แล้วก็ภาษาที่ 3 เป็นวิชาหลักของเราที่จะต้องใช้การยื่นสมัคร เราก็เลยเริ่มเรียนพิเศษตั้งแต่ม.4เลย แต่ว่าเพิ่งจะมาเริ่มทำโจทย์เตรียมตัวจริงจังตอนม.6 Q: มีเคล็ดลับยังไงบ้าง ทราย: เราไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษ เตรียมตัวตามปกติเลย อย่างมากก็เขียนศัพท์ลง post-it หลาย ๆ ใบแล้วไว้ที่ผนังข้างเตียง พอเราเห็นบ่อย ๆ ก็จำได้เอง แล้วก็ตอนทำโจทย์ก็จับเวลาจริง พยายามปิดโทรศัพท์ เอาไปไว้ไกล อยู่ในห้องคนเดียวไม่ให้ใครรบกวน เราเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านตัวหนังสือเยอะ ๆ แล้วก็ไม่ชอบจดโน้ตยาว ๆ เราก็เลยเน้นทำโจทย์ข้อสอบเก่าบ่อย ๆ อย่ากลัวที่จะตอบผิด เพราะยิ่งผิดบ่อย ๆ เรายิ่งจำ พวกแพทเทิร์นข้อสอบข้าวของไทยจะไม่ค่อยเปลี่ยนพอเราทำบ่อย ๆ เราก็จะจับทางได้เอง ถึงเวลาสอบจริงเราก็จะไม่ตื่นข้อสอบด้วยนอกจากนี้เวลาเราผิดเราก็จะเอาปากกาแดงวงไว้ตัวใหญ่ ๆ แล้วกลับมาเปิดทบทวนประเด็นนั้น พอตรวจเสร็จแล้วก็จดคะแนนแล้วเว้นไปแล้วกลับมาทำอีกครั้ง Q: ช่วงนั้นเครียดไหม มีวิธีจัดการกับความเครียดยังไง ทราย: ช่วงเตรียมสอบเราค่อนข้างเครียดน้อย เพราะมีเวลาเตรียมตัวมาเรื่อย ๆ…
Read More
รวม! สรุป Pat 1 คณิตในแอป Clearnote

รวม! สรุป Pat 1 คณิตในแอป Clearnote

GAT/PAT, O-NET, PAT1, TCAS, รีวิว, สอบกลางภาค, สอบปลายภาค, แอป Clearnote
  สวัสดีจ้า น้องๆ ทุกคน บล็อกวันนี้เราขอเอาใจน้องๆ ม.6 เพราะอีกแค่ 120 กว่าวัน ก็จะถึงวันสอบ Gat pat กันแล้ว บล็อกนี้เลยจะรวบรวมสรุป Pat 1 ในแอป Clearnote มาให้น้องๆ ทุกคนได้ไปอ่านทบทวน เตรียมพร้อมตะลุย Pat 1 กัน ! (ดูปฏิทินวันสอบ: TCAS65: ปฏิทินการสมัครสอบ GAT/PAT และวิชาสามัญ ปีการศึกษา 2565) 1.MayItutoryou สรุปสูตรตรีโกณ คณิต PAT1 ฟรี โดย mayitutoryou   ใครยังไม่แม่นเรื่องตรีโกณมิติรีบมาอ่านได้เลย เพราะสรุปนี้รวมสูตรตรีโกณไว้หมดแล้ว เช่น สูตรผลบวกผลต่าง สูตรมุมครึ่งเท่า สูตรผลคูณเป็นผลบวก สูตรผลบวกเป็นผลคูณ แบ่งไว้เป็นหัวข้ออย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างโจทย์และเฉลย เข้าใจง่ายมากๆ! ลิงก์ไปอ่านโน้ตสรุป: MayItutoryou สรุปสูตรตรีโกณ คณิต PAT1 ฟรี 2.[GAT/PAT60] สรุปสูตรสถิติ โดย iampanan   มาต่อกับสรุปสูตรสถิติอย่างย่อ ใครจำสูตรสถิติไม่ได้สมควรอ่านอย่างยิ่ง เพราะรวมมาให้แบบย่อๆ เน้นๆ สำหรับทบทวนโดยเฉพาะ เหมาะกับการอ่านที่บ้าน บนรถ บนเรือ และหน้าห้องสอบ ลิงก์ไปอ่านโน้ตสรุป: [GAT/PAT60] สรุปสูตรสถิติ 3.[คณิต] สรุปความน่าจะเป็น โดย JS TUTOR   โน้ตสรุปเรื่องความน่าจะเป็นจากติวเตอร์โดยตรงอย่าง JS TUTOR ที่สวยและน่าอ่านมากๆ อธิบายกระชับ เข้าใจง่าย พร้อมเน้นตรงจุดที่ออกสอบบ่อยๆ และมีโจทย์ที่น่าสนใจพร้อมแสดงวิธีทำให้ด้วยนะ! ลิงก์ไปอ่านโน้ตสรุป: [คณิต] สรุปความน่าจะเป็น 4.[PAT1] สรุปสูตรคณิตม.ปลาย โดย All about short note   ใครอยากทวนหลายเรื่องต้องสรุปนี้เลย เพราะสรุปรวมสูตรคณิตไว้กว่า 15 เรื่อง 37 หน้า ทั้ง Set ตรรกศาสตร์ จำนวนจริง เลขยกกำลัง ฟังก์ชัน ตรีโกณ และอื่นๆ อีกมากมาย เยอะๆ จุกๆ กันไปเลย ดีมากๆ สำหรับน้องๆ ที่อยากทวนเนื้อหาที่เรียนมาตั้งแต่ ม.4-ม.6 ลิงก์ไปอ่านโน้ตสรุป: [PAT1] สรุปสูตรคณิตม.ปลาย 5.สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.ปลาย ver.2021 โดย Malittledesk   มากันอีกแล้วกับสรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.ปลาย แบบรวมหลายเรื่อง สรุปนี้รวม 10 เรื่องของคณิตศาสตร์ ม.ปลาย…
Read More
เจาะลึกเคล็ดลับทำข้อสอบเก่ายังไงให้ต๊าชชช ฉบับเด็กเตรียม

เจาะลึกเคล็ดลับทำข้อสอบเก่ายังไงให้ต๊าชชช ฉบับเด็กเตรียม

9วิชาสามัญ, English, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, PAT1, PAT2, PAT7, PAT7, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาที่3, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, สอบเข้าม.ปลาย
เจาะลึกเคล็ดลับทำข้อสอบเก่ายังไงให้ต๊าชชช ฉบับเด็กเตรียม                สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ก็ก้าวเข้าสู่ช่วงปิดเทอมเล็กแล้ว คิดว่าคงมีน้อง ๆ มัธยมหลายคนใช้ช่วงเวลานี้ในการอ่านหนังสือเตรียมสอบทั้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสอบเข้าโรงเรียนดัง ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผู้เขียนเริ่มอ่านหนังสือเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแบบจริงจังเหมือนกัน (แต่ย้อนไปหลายปีหน่อย5555)                แต่ด้วยความที่ตอนม.ต้น ผู้เขียนเป็นคนที่เรียนระดับปานกลาง ไม่ได้เก่งอะไร อ่านหนังสือก็อ่านเฉพาะแค่ตอนเตรียมสอบมิดเทอม ไฟนอลของที่โรงเรียน เลยไม่รู้จะเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อสอบแข่งขันกับคนอื่นยังไงดี ลองผิดลองถูกสารพัดจนในที่สุดก็สอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา(เยส!) วันนี้ผู้เขียนเลยอยากมาแนะนำเคล็ดลับการเรียนที่สำคัญมาก ๆ อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือเคล็ดลับการทำข้อสอบเก่ายังไงให้พอไปสอบจริงแล้วคะแนนพุ่ง 1.  อ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยทำข้อสอบเก่า                ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นพื้นฐานเบสิกรึเปล่า แต่ผู้เขียนเคยพลาดตรงนี้มาแล้ว5555 ตอนนั้นผู้เขียนคิดว่าถ้าทำข้อสอบเก่าก่อนก็จะทำให้สร้างความคุ้นเคย รู้ว่าข้อสอบจะออกประเด็นไหนบ้าง เลยบุกตะลุยทำข้อสอบเก่ารัว ๆ เลย แต่พอทำแล้วก็รู้ว่าไม่เวิร์กเลย                ถ้าถามว่าทำไมวิธีนี้ไม่เวิร์กก็เพราะว่าผู้เขียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประเด็นที่ผู้เขียนผิดมันคืออะไรและควรไปหาอ่านจากที่ไหนเพิ่ม5555 นอกจากนี้พอทำข้อสอบเก่าผิด ได้คะแนนน้อยหลาย ๆ ครั้งเข้าก็รู้สึกเฟล ท้อ หมดกำลังใจไปพักใหญ่ ๆ จนมาเปลี่ยนวิธีอีกครั้งเป็นการอ่านหนังสือก่อน (หรือเรียนพิเศษก่อน) แล้วมาทำข้อสอบเก่า                วิธีนี้นอกจากเราจะมีความรู้พื้นฐานที่จะเอามาใช้ทำข้อสอบเก่าได้แล้ว ยังเหมือนเป็นการเอาความรู้ที่เราได้รับจากหนังสือมาประยุกต์ พลิกแพลงปรับใช้กับโจทย์ เหมือนได้ทบทวนและต่อยอดจากความรู้เดิมไปในตัว 2. กลับไปทบทวนข้อที่ผิด                คิดว่าเป็นเทคนิคพื้นฐานอีกเหมือนกัน แต่น้อง ๆ หลาย ๆ คนอาจขี้เกียจทำกัน แต่ขอบอกเลยว่าวิธีนี้จะช่วยให้คะแนนเราพุ่งขึ้นแบบคาดไม่ถึงเลย โดยการกลับไปทบทวนประเด็นข้อที่ผิดก็เหมือนกับการไปซ่อมแซม อุดช่องโหว่ในประเด็นที่เรายังไม่แน่นพอ โดยอาจกลับไปอ่านย้ำพื้นฐานอีกรอบ หรือถ้าผิดเพราะประยุกต์ใช้ไม่ได้ก็กลับไปทำแบบฝึกหัดเจาะหัวข้อนั้น ๆ ให้คล่อง 3. ข้อไหนมั่วทำสัญลักษณ์เอาไว้                เป็นเทคนิคที่ผู้เขียนใช้เวลาทำข้อสอบเก่าบ่อยมากเวลาไม่มั่นใจว่าข้อนี้จะตอบถูกไหมหรือตอนที่มั่วคำตอบ (รู้เลยว่าเป็นคนยังไง5555) เพราะเราเป็นคนที่ถ้าดูเฉลยแล้วตัวเองตอบผิดก็จะกลับมาย้อนดู แต่ข้อที่ถูกเราก็จะข้าม ๆ ไป แต่ถ้าเรามั่วข้อสอบ บางครั้งคำตอบของเราก็อาจจะฟลุกถูกก็ได้ แล้วพอถูกแล้วเราก็จะข้าม ๆ เปิดผ่าน ๆ โดยที่จริง ๆ แล้วเราก็อาจไม่มีความรู้หรือมีพื้นฐานประเด็นนั้นพอได้ ดังนั้นการทำสัญลักษณ์ เช่น รูปดาว รูปหัวใจเอาไว้ก็จะช่วยเตือนให้เราย้อนกลับมาดูได้ โดยเทคนี้นี้ใช้ได้ไม่ใช่แค่กับข้อที่มั่วหรือข้อที่ไม่มั่นใจเท่านั้น แต่อาจใช้กับข้อที่อยากรู้คำตอบก็ได้ 4.จับเวลาจริง                เชื่อว่าหลาย ๆ คนรู้อยู่แล้วว่าต้องทำ แต่จากประสบการณ์คนรอบ ๆ ตัวหลาย ๆคน(รวมถึงตัวเองช่วงแรก ๆ )ก็ไม่กล้าจับเวลาทำข้อสอบเพราะกลัวเครียดและกดดันจนผลสอบแย่ แต่จริง ๆ แล้วการจับเวลาจริงขณะทำข้อสอบเก่าจะสร้างความเคยชินว่าข้อสอบพาร์ทนี้ควรใช้เวลาเท่านี้ ๆ ควรบริหารเวลาแบบนี้ ๆ  ความเคยชินนี้เองก็จะช่วยทำให้ตอนทำข้อสอบจริงไม่ลก ไม่กระวนกระวาย 5. จดคะแนนแล้วทำข้อสอบอีกครั้ง                เทคนิคนี้ก็ตามชื่อเลย ก่อนอื่นตอนทำข้อสอบเก่าให้เขียนคำตอบแยกไว้ในกระดาษอีกแผ่นหนึ่งเพื่อที่จะได้กลับมาทำข้อสอบชุดนั้นได้หลาย ๆ รอบ จากนั้นเมื่อทำเสร็จแล้วก็ให้จดคะแนนที่ทำได้ทุก ๆ ครั้งเอาไว้เป็นเหมือนสถิติ ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของตัวเองว่าดีขึ้นหรือแย่ลงยังไง ถ้าคะแนนดีขึ้นก็จะเป็นแรงบันดาลใจว่าความพยายามของเราส่งผลแล้ว แต่ถ้าคะแนนแย่ลงก็จะทำให้เราได้สังเกตและรู้ตัวเองได้ทัน สามารถไปปรับแก้ได้ ไม่สายเกินไป โดยส่วนตัวผู้เขียนขอแนะนำให้เว้นระยะเวลาทำข้อสอบหนึ่งชุดเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์…
Read More
Pomodoro Technique เทคนิคที่จะทำให้การอ่านหนังสือไม่ล้าอีกต่อไป

Pomodoro Technique เทคนิคที่จะทำให้การอ่านหนังสือไม่ล้าอีกต่อไป

9วิชาสามัญ, English, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, PAT1, PAT2, PAT7, TCAS, Uncategorized, สอบกลางภาค, สอบปลายภาค
  Pomodoro Technique เทคนิคที่จะทำให้การอ่านหนังสือไม่ล้าอีกต่อไป          สวัสดีค่ะ น้อง ๆ ทุกคน ช่วงนี้คิดว่าหลาย ๆ คนอาจเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ เพราะอ่านหนังสือเตรียมสอบไฟนอลกัน  แต่บางครั้งคงรู้สึกกันว่าถึงอ่านหนังสือหนัก เรียนหนักแล้ว แต่เนื้อหาก็ไม่เข้าหัว เบลอ ๆ ไปทำข้อสอบ ทำสอบ คะแนนก็ไม่ดี ไม่คุ้มกับเวลาที่อ่านหนังสือไป           วันนี้ผู้เขียนเลยจะมาแนะนำเทคนิคการบริหารเวลาแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือหรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ล้าอีกต่อไป นั่นก็คือ Pomodoro Technique           Pomodoro Technique คืออะไร?           น้อง ๆ คุณผู้อ่านหลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นชื่อกับPomodoro Technique ดังนั้นผู้เขียนขออธิบายที่มาที่ไปของเทคนิคนี้ง่าย ๆ ว่าเทคนิค Pomodoro เป็นเทคนิคการบริหารเวลาที่คิดค้นขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อ Francesco Cirillo ซึ่งตอนนั้นเขาที่กำลังหาทางที่จะทำให้ตัวเองเรียนและทำงานให้เสร็จภายใต้เงื่อนไขเวลาที่จำกัด จนไอเดียก็มาปิ๊งตอนที่ Cirillo ได้เจอนาฬิกาจับเวลารูปมะเขือเทศที่ห้องครัว ทำให้ไป ๆ มา ๆ ก็เกิดเทคนิค Pomodoroนี้ขึ้นมา (Pomodoro แปลว่า มะเขือเทศ ในภาษาอิตาลี)           โดยเทคนิคPomodoro เป็นเทคนิคการบริหารเวลาที่จะแบ่งช่วงเวลาทำงานหรืออ่านหนังสือออกเป็นช่วง ๆ ช่วงละ 25 นาที โดยในแต่ละช่วงจะมีช่วงพัก 5 นาที ซึ่งCirillo เชื่อว่าการทำแบบนี้จะทำให้สมองสามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ล้าจนเกินไป           How to อ่านหนังสือด้วยเทคนิค Pomodoro           1. ให้เขียน list หนังสือ แบบฝึกหัด หรืองานที่เราต้องทำ           2. ตั้งนาฬิกาจับเวลา 25 นาที และระหว่างนั้นให้ตั้งใจอ่านหนังสือหรือทำงานตามแผนจนกว่าจะครบ 25 นาที ถือว่าจบ 1 เซ็ต           3. พัก 5 นาที (จะเดินไปดื่มน้ำ กินขนม เล่นกับน้องหมาน้องแมว หรือยืดเส้นยืดสายก็ได้ตามใจชอบ แต่ไม่แนะนำให้เล่นโซเชียลหรือเล่นเกม เพราะอาจยาว555)           4. กลับไปอ่านหนังสืออีก 25 นาที ทำวนข้อ2 3 ให้ครบ 4 เซ็ต           5. เมื่อครบ 4 เซ็ตแล้ว…
Read More
ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”

ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”

9วิชาสามัญ, English, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, PAT1, PAT2, TCAS, ภาพยนตร์, ภาษาญี่ปุ่น, สอบกลางภาค, สอบปลายภาค
ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”           สวัสดีจ้า น้อง ๆ มีใครเคยดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดังเรื่อง「ビリギャル」หรือ “Biri Gal”  บ้างไหมคะ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของผู้เขียนเลย ถ้าใครยังไม่รู้จัก เราไปดูเรื่องย่อกันดีกว่า ที่มา : http://birigal.jp/           เรื่องย่อ           ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริง โดยคุโด ซายากะ (รับบทโดย Arimura Kasumi) นางเอกของเรื่อง เป็นสาวแกล ที่โหล่ของห้องที่ถึงจะอยู่ชั้นม.5 แต่ความรู้เทียบได้กับแค่เด็กป.4 และก่อเรื่องไม่เว้นวันจนในโรงเรียนต่างเอือมระอา จนมาวันหนึ่งซายากะถูกพักการเรียน แม่ได้ชักชวนให้เธอไปสมัครเรียนที่โรงเรียนสอนพิเศษแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ซายากะได้พบกับอาจารย์ท์ซุโบตะ โนบุทากะ (รับบทโดย Ito Atsushi) อาจารย์สอนพิเศษที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของซายากะให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นได้ภายใน 1 ปี ที่มา : https://youtu.be/oyqqcgpWzsM           เป็นเรื่องราวการฝ่าฟันอุปสรรคของเด็กม.ปลายคนหนึ่งเพื่อเป้าหมายและความฝันของตัวเองที่น่าประทับใจมาก ๆ น้อง ๆ คนไหนที่สนใจก็ลองไปดูกันได้นะคะ และวันนี้เราจะเอาเคล็ดลับที่ซายากะใช้อ่านหนังสือเตรียมสอบมาตีแผ่ให้น้อง ๆ อ่านกันค่ะ รับรองว่าถ้าเอาวิธีอ่านหนังสือของซายากะไปปรับใช้แล้ว เริ่ดปังทุกคน!           1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน           ก่อนที่จะเริ่มต้นอ่านหนังสือหรือทำอะไร เราต้องกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนก่อน โดยจากเรื่องตอนแรกซายากะไม่รู้ถึงความสำคัญของการกำหนดเป้าหมาย แต่อาจารย์ท์ซุโบตะได้พูดออกมาว่า「でもさ、無理って思うことを成し遂げたら、自信になるだろ」ซึ่งแปลว่า “แต่ว่านะ การทำสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้ลุล่วง ก็จะกลายเป็นความมั่นใจได้นะ” ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นอ่านหนังสือ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะมีเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป เพราะถ้าเรามีความตั้งใจและความพยายามมากพอ ก็จะสามารถทำให้ความฝันที่ตอนแรกเรามองว่าเป็นไปไม่ได้ ให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ แล้วความสำเร็จนั้นก็จะทำให้เราเกิดความมั่นใจ ความภูมิใจในตัวเอง           ทั้งนี้แรงบันดาลใจหรือเหตุผลที่ทำให้เราตั้งเป้าหมายนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องจริงจังก็ได้ เช่น ในตอนแรกที่ซายากะเข้าโรงเรียนม.ต้นของเธอ ส่วนหนึ่งก็เพราะชุดเครื่องแบบนักเรียนน่ารัก น่าใส่ และในตอนที่ซายากะเลือกสอบที่มหาวิทยาลัยเคโอ ก็เพราะที่มหาวิทยาลัยขึ้นชื่อเรื่องหนุ่มหน้าตาดี ดังนั้นเราอาจหาแรงบันดาลใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย เช่น อยากเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยนั้น เพราะอาคารสวย เพราะอาหารอร่อย เพราะอยากลองเข้าทำกิจกรรมนี้ ๆ หรือแค่เพราะอยากลองchallengeตัวเอง ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นแล้ว           2. ไม่กลัวที่จะปูพื้นฐานใหม่           จากที่ได้เล่าให้ฟังในเรื่องย่อ ถึงซายากะจะเรียนอยู่ชั้นม.5 แล้ว แต่ความรู้ต่าง ๆ ยังอยู่ชั้นป.4 ทำให้ทำคะแนนpre-testของโรงเรียนกวดวิชาได้0คะแนน ถึงอย่างนั้นซายากะก็ไม่กลัวที่จะปูพื้นฐานของตัวเองใหม่หมดเลยโดยการนั่งอ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดสำหรับนักเรียนชั้นประถม ทำให้ต่อมาซายากะคะแนนดีขึ้นเรื่อย ๆ           การปูพื้นฐานก็เหมือนกับการกำจัดจุดอ่อนของเรา โดยน้อง ๆ อาจลองทำข้อสอบประเมินทุกวิชาก่อนว่าตัวเองมีจุดอ่อนวิชาไหน หรือหัวข้อไหน แล้วเมื่อเรารู้จุดที่อ่อนแล้ว ก็ไปอ่านทำความเข้าใจหลักพื้นฐานของวิชานั้น ๆ หรือประเด็นนั้น ๆ จากนั้นเมื่อพื้นฐานเราแน่นมากพอแล้ว เราก็สามารถไปตะลุยโจทย์ที่มีระดับความยากขึ้นไปอีกได้           อาจารย์สมัยม.ปลายของผู้เขียน (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) เคยพูดเอาไว้ว่า การเรียนก็เหมือนการก่อปราสาททราย…
Read More

PAT1…สรุปดี ๆ ที่จะช่วยพิชิตข้อสอบมาแล้วจ้า!

GAT/PAT, PAT1
สวัสดีจ้าน้อง ๆ ทุกคน ต้นเดือนพฤษภาคมแบบนี้ หลาย ๆ โรงเรียนน่าจะเริ่มนับถอยหลังรอวันเปิดเทอมกันแล้ว และโดยเฉพาะเหล่า Dek63 ที่ฤดูกาลแห่งการเริ่มอ่านสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็คงได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังแล้วเช่นกัน!! และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา วันนี้เราจึงมาเอาใจชาว 63 ด้วยสรุปเนื้อหาสำหรับไปตะลุยโจทย์ในข้อสอบวิชา PAT1 กัน !!! ขอกระซิบบอก (ดัง ๆ )เลยว่า บทความนี้ Dek63 ห้ามพลาด เพราะนี่คือการรวมสรุป ข้อสอบ PAT1 ที่เด็ดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! มาเริ่มกันเลยที่สรุปสุดคูล ที่รวมทุกเนื้อหาสำหรับข้อสอบ PAT1 ไว้อย่างครบถ้วนเล่มนี้!! “[PAT1] สรุปสูตรคณิตม.ปลาย” ขอบอกเลยว่าสรุปเล่มนี้รวมครบหมดทุกเรื่องที่เรียนมาในม.ปลายจริง ๆ ถือได้ว่าเป็นคัมภีร์สำหรับอ่านสอบ PAT1 ได้เวิร์คมาก ๆ ใครสนใจก็ตามไปอ่านกันได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้ได้ “ฟรี ๆ ” เลยยยย [PAT1] สรุปสูตรคณิตม.ปลาย https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/473355 และแน่นอนว่า ถ้าใครอ่านเนื้อหาบางเรื่องแล้วยังไม่เข้าใจ อยากอ่านเพิ่มเราก็มีสรุปเนื้อหาแต่ละเรื่องให้เหมือนกัน อย่างเช่น สรุปเรื่อง “เซต ม.4” เล่มนี้เลย โน้ตสรุปสุดน่ารัก ที่ไม่ได้มีดีแค่ความฟรุ้งฟริ้ง แต่ยังมาพร้อมกับเนื้อหาที่ครบถ้วน แต่เข้าใจง่าย ใครที่อยากทวนเนื้อหาเรื่องเซตไปสู้กับข้อสอบ PAT1 บอกเลยว่าเล่มนี้ช่วยได้แน่นอนจ้า! เซต ม.4 ที่มาเซต ม.4https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/597146 โน้ตสรุปเรื่องต่อมาที่เราจะแนะนำชาว 63 สำหรับไปอ่านสู้ข้อสอบกันก็คือ “Trigonometry(ตรีโกณ)” จ้าาา เรื่องตรีโกณอาจเป็นฝันร้ายของใครหลาย ๆ คน ทั้ง sine cos tan เยอะแยะเต็มไปหมด วันนี้เราเลยเอาสรุปรวมสูตรตรีโกณมาให้น้อง ๆ เอาไปทบทวนแล้วฝึกเอาสูตรไปพลิกแพลงทำโจทย์กันให้ชิน จะได้เปลี่ยนฝันร้ายให้กลายเป็นฝันดี เพราะทำข้อสอบ PAT1 กันได้คะแนนดี ๆ นั่นเองงง ว่าแล้วไปดูกันเล้ยยย ที่มาTrigonometry(ตรีโกณ) https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/597712 และโน้ตสรุปสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำน้อง ๆ กันในวันนี้ก็คือ “สูตรความสัมพันธ์ฟังก์ชัน ม.6” อ่านง่าย สรุปมาให้แต่เนื้อหาเน้น ๆ ให้น้อง ๆ เอาสูตรไปลุยกันในข้อสอบ PAT1 ได้อย่างเต็มที่ไปเลยย ที่มาสูตรความสัมพันธ์ฟังก์ชัน ม.6 https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/800041 สุดท้ายนี้ ก่อนจะจากกันไปในบทความนี้ ก็อยากจะฝากน้อง ๆ ทุกคน โดยเฉพาะ Dek63 เอาไว้ว่า เคล็ดลับในการทำข้อสอบ PAT1 จริง ๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่การท่องจำสูตร แต่คือการนำสูตรพวกนั้นไปประยุกต์ใช้กับโจทย์แต่ละข้อ เพราะฉะนั้น วิธีการอ่านสอบสำหรับ PAT1 ที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ การฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ ให้เราได้หัดเอาสูตรต่าง ๆ…
Read More