4 เทคนิคอัพสกิลภาษาที่ 3 แบบก้าวกระโดด ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้

4 เทคนิคอัพสกิลภาษาที่ 3 แบบก้าวกระโดด ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้

English, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, PAT7, ข้อมูลเรียนต่อนอก, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาที่3, ภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาญี่ปุ่น
4 เทคนิคอัพสกิลภาษาที่ 3 แบบก้าวกระโดด ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้           สวัสดีค่ะ เชื่อว่าน้อง ๆ ที่คลิกเข้ามาอ่านบทความนี้หลาย ๆ คนคงกำลังเรียนภาษาที่ 3 อยู่ใช่ไหมคะ และก็เชื่อว่ามีหลายคนที่รู้สึกว่าพอเรียนไปสักพักแล้วก็รู้สึกว่าทำไมสกิลเรานิ่งจัง มันไม่ค่อยพัฒนาเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหานี้เป็นปัญหายอดฮิตของผู้เรียนภาษาที่ 3 เลยก็ว่าได้ ดังนั้นวันนี้ผู้เขียน ซึ่งอยู่ในฐานะคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ 3 อยู่ ก็ขอแชร์เทคนิคง่าย ๆ ที่ เราใช้แล้วรู้สึกว่าเวิร์กมาให้น้องทุก ๆ คนลองปรับใช้ดู รับรองได้ว่าทำแล้วสกิลภาษาพุ่งขึ้นรัว ๆ แน่นอน เทคนิคที่ 1 : เปลี่ยนสื่อที่เสพทุกอย่างเป็นภาษานั้น ๆ           วิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้เขียนทำแล้วเวิร์กที่สุด โดยวิธีทำก็ตามชื่อเลยก็คือให้น้อง ๆ เปลี่ยนสื่อที่ตัวเองเสพอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เพลง ละคร หนัง เกม นิยาย Youtube หรือแม้แต่Twitter เป็นสื่อภาษาที่เราเรียนอยู่ น้อง ๆ หลายคนอาจรู้สึกเอียน รู้สึกว่าเรียนจากในชั่วโมงมาตั้งเยอะแล้ว นอกชั่วโมงเรียนยังต้องมาเจอภาษานี้อีกเหรอ แต่เราขอบอกเลยว่าถ้าทำแล้ว สกิลภาษาของน้อง ๆ จะก้าวกระโดดไม่ได้เยอะมาก ๆ ค่ะ ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงเรื่อง Input Hypothesis เอาไว้ในบทความ เคล็ดลับการหาหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะกับตัวเอง ภายใน 5 นาที (ขออนุญาตขายของ 5555) ว่าสิ่งที่สำคัญในการเรียนภาษาที่ 2 (หรือ 3 4 5 ฯลฯ) คือการรับข้อมูล หรือInput เข้ามา โดย Inputที่จะทำให้การเรียนรู้ภาษามีประสิทธิภาพนั้น นอกจากจะต้องมีความยากพอดี ระดับความยากไม่มากกว่าความรู้ของผู้เรียนมากจนเกินไป (i+1)แล้ว Inputนั้นยังต้องมีจำนวนมากด้วย           ดังนั้นการที่เราเปลี่ยนสื่อที่ตัวเองเสพอยู่ (ซึ่งการเสพหรือรับเข้ามาก็คือ Input) เป็นภาษาที่เราเรียนอยู่ ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่ได้ Input กลับไปเป็นจำนวนมาก           นอกจากนี้การเรียนรู้ภาษาผ่านทางสื่ออื่น ๆ นอกหนังสือเรียนก็จะทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการใช้ภาษานั้น ๆ แบบเป็นธรรมชาติแบบฉบับnative เพราะบางครั้งสิ่งที่เราเรียนจากหนังสือเรียนก็อาจเป็นทางการหรือเจ้าของภาษาไม่ค่อยได้ใช้ https://www.tiktok.com/@imsparkzz/video/6922049372511390978?_d=secCgYIASAHKAESPgo89%2BwjJ5E7Idfy0L0WR%2FNHfy9vF%2F9baLhpig8%2FRqxx7DZW1ng9nx28WRUA5eHeQlPqv1LR5zKAwMY9qbw1GgA%3D&checksum=424d745ad9ab797f3a7a75e63f641450c04f0ee1e80826fb18c6b13c5d8616c6&language=en&mid=6922049369302633218&preview_pb=0&region=TH&sec_user_id=MS4wLjABAAAAK7vZnk5YLELH6erulTW6KLahqCy1_Q1eLZBRSlE-QV32FLd3jdQOA0_6IOo4RrsY&share_app_id=1180&share_item_id=6922049372511390978&share_link_id=394F99C0-C04E-437E-B63B-29D3D8E3991D&source=h5_t&timestamp=1632205311&tt_from=copy&u_code=df3ekb71ki7m4a&user_id=6884667380674855937&utm_campaign=client_share&utm_medium=ios&utm_source=copy&_r=1 https://www.tiktok.com/@michaela_sato/video/7004091252979322114?_d=secCgYIASAHKAESPgo86EOi64HvMrnDdgyDQ%2FpwkVBFFkPADyWpyfXYjclMAedz2iOWRLNuxGglJ4CbHfGs23VGYnCG1yGLIRdaGgA%3D&checksum=988fa60626bcbf203ab8111f97cf9e646c047689fe6d50f6a995ed407ca5009d&language=en&mid=7004091210025847554&preview_pb=0&region=TH&sec_user_id=MS4wLjABAAAAK7vZnk5YLELH6erulTW6KLahqCy1_Q1eLZBRSlE-QV32FLd3jdQOA0_6IOo4RrsY&share_app_id=1180&share_item_id=7004091252979322114&share_link_id=9ECEE1B7-49E5-4905-8A3F-8785F6FF4E44&source=h5_t&timestamp=1632205351&tt_from=copy&u_code=df3ekb71ki7m4a&user_id=6884667380674855937&utm_campaign=client_share&utm_medium=ios&utm_source=copy&_r=1           จากคลิปข้างบนก็จะเห็นว่าถึงเราจะเรียนคำว่า ありがとうございます (Arigatou gozaimasu) หรือคำขอบคุณในภาษาญี่ปุ่นจากในตำรา แต่ในชีวิตจริงก็อาจเป็นทางการมากเกินไป หรืออาจมีวิธีการพูดคำนี้ในหลาย ๆ แบบ ดังนั้นถ้าน้อง ๆ ได้เรียนรู้จากสื่อ ก็จะทำให้สามารถใช้ภาษานั้น ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงเจ้าของภาษาไปอีกเสต็ป           อีกทั้งถ้าน้อง ๆ เสพสื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น น้อง ๆ…
Read More
เคล็ดลับการหาหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะกับตัวเองภายใน 5 นาที

เคล็ดลับการหาหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะกับตัวเองภายใน 5 นาที

9วิชาสามัญ, English, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, TCAS, ภาษาอังกฤษ, หนังสือ
        เคล็ดลับการหาหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะกับตัวเอง ภายใน 5 นาที          สวัสดีค่า ช่วงนี้คลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ผู้เขียนยังอยู่บ้าน Work From Home อยู่ นอกเวลางานก็ไถโซเชียลดูเพลิน ๆ แต่บางครั้งก็รู้สึกเบื่อโลกโซเชียล เลยถือโอกาสนี้มาฝึกสกิลภาษาอังกฤษด้วยการหานิยายภาษาอังกฤษอ่าน           แต่ปัญหาก็คือเราหาหนังสือที่เหมาะกับระดับความรู้ภาษาอังกฤษเราไม่ได้สักที บางเล่มก็รู้สึกว่าง่ายไปไม่ค่อยได้ฝึกคำศัพท์ใหม่ ๆ บางเล่มก็ยากเกินเหมือนภาษาต่างดาว5555 จนเร็ว ๆ นี้เราบังเอิญได้ไปเจอคนที่พูดถึงเรื่องนี้ในyoutube https://www.youtube.com/watch?v=RVJLw-H0vE0 ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=RVJLw-H0vE0           จากในคลิป คุณUSAiko พูดถึงเรื่องหลัก Five Finger Rule ซึ่งเป็นหลักง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถหาหนังสือภาษาต่างประเทศที่เหมาะกับระดับของเราได้           Five Finger Rule           วิธีทำก็ง่าย ๆ เลยคือก่อนที่จะซื้อหนังสือ ให้น้อง ๆ สุ่มเปิดมาหนึ่งหน้า จากนั้นก็ลองกวาดสายตาอ่านดู และเมื่อเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ก็ให้ชูนิ้วขึ้นมา โดยจำนวนนิ้วที่เราชูขึ้นมาจะบ่งบอกว่าระดับภาษาในหนังสือเล่มนั้นเหมาะสมกับเราหรือเปล่า           0-1 นิ้ว : ระดับภาษาในหนังสือง่ายเกินไป           2 นิ้ว : ระดับภาษาที่เหมาะสมกับน้อง ๆ ที่สุด (คำศัพท์ไม่ยาก ไม่ง่ายเกินไป และน้อง ๆ ยังสามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ได้แบบไม่กดดัน)           3 นิ้ว : ระดับภาษาอาจจะยากขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง เหมาะกับคนที่ต้องการท้าทาย อยากเรียนรู้คำศัพท์ใหม่เยอะ ๆ           4 นิ้ว : ระดับภาษาอาจจะยากขึ้นมาอีกระดับ ไม่ค่อยแนะนำเพราะอ่านไปนาน ๆ อาจรู้สึกเหนื่อย ถอดใจไปได้           5 นิ้วขึ้นไป : ระดับภาษายากเกินไป ควรเปลี่ยนเล่มใหม่เป็นเล่มที่ง่ายกว่านี้ ที่มา: https://www.asiabooks.com/breasts-and-eggs-249270.html           อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้เขียนลังเลอยู่ว่าจะซื้อหนังสือเรื่อง BREASTS AND EGGS ดีไหม (แต่พออ่านแล้วก็ขอขายว่าเรื่องนี้ดีจริง สะท้อนด้านมืดของสังคมญี่ปุ่นที่ผู้หญิงต้องเจอ น้องคนไหนสนใจก็ไปตำได้จ้า) เพราะเป็นคนถอดใจง่าย ถ้าศัพท์ยากเกินไป ความอยากอ่านก็จะลดลง เราเลยเอาหลัก Five Finger Rule มาใช้ โดยสุ่มเปิดมาหน้าหนึ่งแล้วอ่าน นับจำนวนคำที่ตัวเองไม่รู้           จากในภาพจะเห็นว่ามีคำศัพท์ที่ผู้เขียนไม่รู้ 3 คำตามที่ได้ขีดเส้นใต้สีแดงเอาไว้ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ก็อาจจะยากกว่าความสามารถของผู้เขียนนิดหนึ่ง แต่ก็เหมาะจะเอาไว้ใช้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ (ดังนั้นผู้เขียนก็รีบคว้าไปจ่ายตังค์เลยค่ะ5555)           น้อง ๆ ผู้อ่านบางคนที่อ่านมาถึงตอนนี้แล้วอาจจะคิดว่า แล้วถ้าตัวน้องอยากรู้ภาษาต่างประเทศไว ๆ ไม่ได้ขี้เกียจหรือถอดใจกับการหาคำศัพท์ง่าย ๆ…
Read More
ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”

ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”

9วิชาสามัญ, English, GAT, GAT ENG, GAT/PAT, O-NET, PAT1, PAT2, TCAS, ภาพยนตร์, ภาษาญี่ปุ่น, สอบกลางภาค, สอบปลายภาค
ตีแผ่เคล็ดลับเตรียมสอบ จากภาพยนตร์เรื่อง “Biri Gal”           สวัสดีจ้า น้อง ๆ มีใครเคยดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดังเรื่อง「ビリギャル」หรือ “Biri Gal”  บ้างไหมคะ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของผู้เขียนเลย ถ้าใครยังไม่รู้จัก เราไปดูเรื่องย่อกันดีกว่า ที่มา : http://birigal.jp/           เรื่องย่อ           ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริง โดยคุโด ซายากะ (รับบทโดย Arimura Kasumi) นางเอกของเรื่อง เป็นสาวแกล ที่โหล่ของห้องที่ถึงจะอยู่ชั้นม.5 แต่ความรู้เทียบได้กับแค่เด็กป.4 และก่อเรื่องไม่เว้นวันจนในโรงเรียนต่างเอือมระอา จนมาวันหนึ่งซายากะถูกพักการเรียน แม่ได้ชักชวนให้เธอไปสมัครเรียนที่โรงเรียนสอนพิเศษแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ซายากะได้พบกับอาจารย์ท์ซุโบตะ โนบุทากะ (รับบทโดย Ito Atsushi) อาจารย์สอนพิเศษที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของซายากะให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นได้ภายใน 1 ปี ที่มา : https://youtu.be/oyqqcgpWzsM           เป็นเรื่องราวการฝ่าฟันอุปสรรคของเด็กม.ปลายคนหนึ่งเพื่อเป้าหมายและความฝันของตัวเองที่น่าประทับใจมาก ๆ น้อง ๆ คนไหนที่สนใจก็ลองไปดูกันได้นะคะ และวันนี้เราจะเอาเคล็ดลับที่ซายากะใช้อ่านหนังสือเตรียมสอบมาตีแผ่ให้น้อง ๆ อ่านกันค่ะ รับรองว่าถ้าเอาวิธีอ่านหนังสือของซายากะไปปรับใช้แล้ว เริ่ดปังทุกคน!           1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน           ก่อนที่จะเริ่มต้นอ่านหนังสือหรือทำอะไร เราต้องกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนก่อน โดยจากเรื่องตอนแรกซายากะไม่รู้ถึงความสำคัญของการกำหนดเป้าหมาย แต่อาจารย์ท์ซุโบตะได้พูดออกมาว่า「でもさ、無理って思うことを成し遂げたら、自信になるだろ」ซึ่งแปลว่า “แต่ว่านะ การทำสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้ลุล่วง ก็จะกลายเป็นความมั่นใจได้นะ” ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นอ่านหนังสือ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะมีเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป เพราะถ้าเรามีความตั้งใจและความพยายามมากพอ ก็จะสามารถทำให้ความฝันที่ตอนแรกเรามองว่าเป็นไปไม่ได้ ให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ แล้วความสำเร็จนั้นก็จะทำให้เราเกิดความมั่นใจ ความภูมิใจในตัวเอง           ทั้งนี้แรงบันดาลใจหรือเหตุผลที่ทำให้เราตั้งเป้าหมายนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องจริงจังก็ได้ เช่น ในตอนแรกที่ซายากะเข้าโรงเรียนม.ต้นของเธอ ส่วนหนึ่งก็เพราะชุดเครื่องแบบนักเรียนน่ารัก น่าใส่ และในตอนที่ซายากะเลือกสอบที่มหาวิทยาลัยเคโอ ก็เพราะที่มหาวิทยาลัยขึ้นชื่อเรื่องหนุ่มหน้าตาดี ดังนั้นเราอาจหาแรงบันดาลใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย เช่น อยากเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยนั้น เพราะอาคารสวย เพราะอาหารอร่อย เพราะอยากลองเข้าทำกิจกรรมนี้ ๆ หรือแค่เพราะอยากลองchallengeตัวเอง ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นแล้ว           2. ไม่กลัวที่จะปูพื้นฐานใหม่           จากที่ได้เล่าให้ฟังในเรื่องย่อ ถึงซายากะจะเรียนอยู่ชั้นม.5 แล้ว แต่ความรู้ต่าง ๆ ยังอยู่ชั้นป.4 ทำให้ทำคะแนนpre-testของโรงเรียนกวดวิชาได้0คะแนน ถึงอย่างนั้นซายากะก็ไม่กลัวที่จะปูพื้นฐานของตัวเองใหม่หมดเลยโดยการนั่งอ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดสำหรับนักเรียนชั้นประถม ทำให้ต่อมาซายากะคะแนนดีขึ้นเรื่อย ๆ           การปูพื้นฐานก็เหมือนกับการกำจัดจุดอ่อนของเรา โดยน้อง ๆ อาจลองทำข้อสอบประเมินทุกวิชาก่อนว่าตัวเองมีจุดอ่อนวิชาไหน หรือหัวข้อไหน แล้วเมื่อเรารู้จุดที่อ่อนแล้ว ก็ไปอ่านทำความเข้าใจหลักพื้นฐานของวิชานั้น ๆ หรือประเด็นนั้น ๆ จากนั้นเมื่อพื้นฐานเราแน่นมากพอแล้ว เราก็สามารถไปตะลุยโจทย์ที่มีระดับความยากขึ้นไปอีกได้           อาจารย์สมัยม.ปลายของผู้เขียน (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) เคยพูดเอาไว้ว่า การเรียนก็เหมือนการก่อปราสาททราย…
Read More

GAT ENG เตรียมทำข้อสอบแบบผ่านฉลุยยย~!

English, GAT ENG, GAT/PAT
สวัสดีค่าาน้องๆชาวDek 63 เวลาผ่านไปเร็วจริงๆนะคะ แปปๆน้องๆก็ขึ้นม.6กันแล้วเน้อะะ ปีนี้ก็จะสอบกันเป็นชีวิตจิตใจกันเลยก็ว่าได้ GAT/PAT ก็เป็นหนึ่งในนั้น ขึ้นชื่อว่าข้อสอบก็ดูเหมือนจะยากไปหมด แต่! ถ้าเราพร้อมก่อนได้เปรียบก่อน มั่นใจก่อน อะไรๆก็จะดูง่ายขึ้นเมื่อถึงวันใกล้สอบนะคะะ คะแนนGATแบ่งเป็น2ส่วน คือ GAT ไทย และ GAT Eng ซึ่งพาร์ทภาษาอังกฤษอาจจะมีท้าทายมากกว่า แล้วจะต้องเตรียมพร้อมยังไงไปดูเล้ยย มาสร้างความมั่นใจในGAT Eng ด้วย โน๊ตสรุปตัวช่วยให้การทำข้อสอบ GAT Eng ให้เป็นไปแบบง่ายๆกันดีกว่าา 1. [GAT/PAT] กลุ่มคำศัพท์ Eng  by SFei🌙 มาเริ่มกันด้วย vocabulary กันก่อนเลยย การทำข้อสอบ GAT Engให้ได้คะแนนเยอะๆนั้น การท่องศัพท์เป็นสิ่งสำคัญมาก การท่องศัพท์เป็นกลุ่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ความหมายเหมือนกัน หรือที่เราเรียกว่า synonnyms ก็มีประโยชน์มากๆต่อการทำข้อสอบ แอบกระซิบว่าออกข้อสอบบ่อยด้วยน้าา https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/855678 2. [GAT ENG] Prefix ที่สำคัญ!! by Zen nattanid ไม่มีทางที่เราจะสามรถแปลศัพท์ทุกคำบนโลกออก แต่หากรู้และใช้ Prefix เป็น การเดาศัพท์ที่เราไม่รู้ก็จะง่ายขึ้น การทำข้อสอบGAT Engก็จะอีย์ซี่ขึ้นเป็นกองเลยย รู้อย่างนี้แล้ว รีบเลยยรีบท่องเลยน้าา https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/901073 3. [GAT/PAT60] Grammar ทั้งหมด by pppppanan แกรมม่าก็เป็นอีก1หัวใจหลักของภาษาอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่าข้อสอบGAT Eng ก็มีพาร์ทGrammar พวกเรื่องโครงสร้างประโยค ส่วนขยาย tensesต่างๆ การใช้คำ ถ้ามีคำนี้มาต้องตามด้วยอะไร ซึ่งโน๊ตสรุปนี้ก็สรุปไว้ได้ดีมากๆครบจบเลยทีเดียวค่ะ https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/626822 4. [GATPAT61]รวม idioms น่าออกสอบ by Proyfon idoms ก็เป็นอีกอย่างที่ควรหมั่นท่อง เพระาเราไม่สามารถรู้ความหมายของมันจากการแปลตรงตัว การท่องและหมั่นทบทวนเท่านั้นที่จะช่วยให้น้องๆแปลมันออกในข้อสอบได้ค่ะะ https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/741888 อ๊ะะๆ เวลาไม่คอยท่าา รีบเตรียมตัวให้คุ้นชินกับ GAT Eng แต่เนิ่นๆจะไม่ได้เครียดตอนท้ายเน้อะ หาโน๊ตสรุปดีๆมาไว้เป็นตัวช่วยเตรียมการสอบGAT Engได้อีกมากมายในแอพclearเบยย อยากจะฝากไว้ว่าไม่มีอะไรยากเกินความสามารถถ้าน้องๆทุกคนตั้งใจน้าา สู้ๆค่าา Download Clear App: 💓IOS : http://apple.co/2h9RECl💓Android : http://bit.ly/2i2EmfN ใครพลาดบนความก่อนๆ คลิกย้อนอ่านจากข้างล่างนี้เลยย!
Read More

GAT Eng for Dek63! อยากได้คะแนนดีๆ เรามีเทคนิคมาฝากกันจ้า !!

English, GAT ENG, GAT/PAT
ใครอยากได้คะแนน GAT Eng สวยๆ เชิญทางนี้ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝาก! สวัสดีจ้า น้อง ๆ ทุกคน หลังหยุดยาวจากสงกรานต์แบบนี้ เชื่อว่า dek63 หลาย ๆ คน ก็คงจะเริ่มฟิตเตรียมอ่านสอบกันแล้วแน่ ๆ ส่วนใครที่ยังก็อย่ารอช้า เพราะเวลาและเพื่อน ๆ ไม่เคยรอเรา!! เผลอแป๊ปเดียวเดี๋ยวน้อง ๆ ก็ต้องไปนั่งอยู่ในสนามสอบกันแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาสู้ไปด้วยกันเถอะ! และแน่นอนว่า การสอบแต่ละวิชาย่อมมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป ใครอ่านถูกจุด ก็โชคดีคว้าคะแนนไปได้แบบสวย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดี ยิ่งข้อสอบยอดฮิตที่เอาคะแนนไปยื่นได้เกือบทุกคณะอย่าง GAT ด้วยแล้ว พลาดทีเสียดายแย่ วันก่อนเราได้แนะนำโน้ตสรุปเทคนิคการทำคะแนน GAT Thai กันไปแล้ว แน่นอนว่าเด็กไทยทุกคนย่อมมีความมั่นใจในข้อสอบภาษาไทยมากกว่าภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น คะแนน GAT จะดีไม่ดี จะติดไม่ติดก็วัดกันที่ GAT Eng เนี่ยล่ะ!  วันนี้เราเลยมี “แนวข้อสอบ” ของ GAT Eng มาฝากน้อง ๆ ทุกคน ให้เตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ มาดูกันเลยว่า ลักษณะข้อสอบ GAT Eng มันเป็นยังไง!! ข้อสอบ GAT Eng จะแบ่งเป็น 7 Part  ด้วยกัน คือ Speaking & ConversationVocab : Meaning ContextVocab : Meaning RecognitionReading ComprehensionGrammar : Writing ParagraphGrammar : Cloze Test Grammar : Error Identification ซึ่งแน่นอนว่า แต่ละพาร์ท ก็จะมีเทคนิคในการคว้าคะแนนมาอยู่ในกำมือที่แตกต่างกัน ต่อให้รู้แนวข้อสอบดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่รู้เทคนิคดี ๆ ก็อาจจะพลาดคะแนนไปแบบน่าเสียดายก็เป็นได้ วันนี้เราเลยเอาตัวอย่างของสรุปเทคนิคในการทำคะแนน GAT Eng มาแนะนำให้น้อง ๆ ทุกคนเอาไปเป็นคู่มือในการอ่านสอบกัน ในโน้ตสรุปเล่มนี้จะรวมเทคนิคในการทำข้อสอบ GAT Eng ไว้ทุกพาร์ท ให้น้อง ๆ เอาไปฝึกทำ อัพคะแนนกันได้รัว ๆ กันไปเลยจ้า [GAT/PAT60] GAT ENG 100+ https://www.clearnotebooks.com/th/notebooks/625714 รู้เทคนิคดี ๆ แบบนี้แล้ว ก็มาดูกันต่อเลยว่าจะต้องอ่านอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าหลัก ๆ ก็คือ Grammar กับ…
Read More